สำหรับคนทั่วไปแล้ว แทบไม่เคยได้ยินว่า ที่ราบสูงทิเบตมีปัญหามลภาวะทางขยะ แต่เนื่องจากชาวปศุสัตว์เปลี่ยนวิถีชีวิตจากการเลี้ยงสัตว์เร่รอนเป็นการพำนักอยู่ในบ้านคงที่ และใช้ชีวิตแบบทันสมัยเรื่อยๆ อีกทั้งการเดินทางสะดวกขึ้น ทางรถไฟและเครื่องบินก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้สองข้างทางทางหลวงชิงไห่-ทิเบต มีปัญหามลภาวะทางขยะรุนแรงขึ้นทุกวัน ซึ่งที่ราบสูงทิเบตมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลหลายพันเมตร อากาศหนาวจัดทั้งปี ขยะเน่าสลายยาก อาจคงอยู่ได้นานกว่าที่ราบต่ำหลายสิบปีก็ได้ เป็นอันตรายต่อภาวะนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง
นายหยาง ซิน อาสาสมัครผู้รับผิดชอบสถานีพัก "คุนหลุนซานอี้"(昆仑山驿)บอกว่า เนื่องจากที่ราบสูงทิเบตลมแรงมาก ถุงพลาสติกถุงหนึ่งสามารถปลิวตามลมไปไกลถึงกว่า 100 กิโลเมตร นายถู่ตั้นตั้นปู่ ชาวทิเบตที่ทำงานในองค์การสีเขียวลี่ว์เซ่อเจียงเหอ เคยเห็นกับตาว่า วัวและแพะที่ชาวปศุสัตว์ท้องถิ่นเลี้ยงนั้น ไม่ยอมกินอาหารจนผอมลงทุกวัน และเมื่อตายแล้ว ชาวปศุสัตว์ผ่าท้องของพวกมัน พบว่าข้างในเป็นถุงพลาสติกทั้งนั้น เขาบอกว่า เมื่อปี 2013 ลี่ว์เซ่อเจียงเหอ เคยจัดอาสาสมัคร 40 คนทำการสำรวจขยะตามถนนช่วงทางหลวงชิงไห่-ทิเบตกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติเข่อเข่อซีหลี่ ที่มีระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตรเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เก็บขยะได้ประมาณ 140,000 ชิ้น ในจำนวนนี้ 97% เป็นถุงใส่อาหาร ขวดน้ำดื่มและของใช้ประจำวันต่างๆ และยังมีขยะที่ถูกฝังอยู่ใต้ก้อนหินหรือทะเลทราบโกปีอีกมากมาย ขยะตามทางหลวงชิงไห่-ทิเบตไม่มีวันจะเก็บได้หมด แม้ว่าผู้ดูแลทางหลวงจะเก็บทุกวันก็ตาม แต่ขยะที่ทิ้งออกมามากกว่าที่เก็บมาเยอะมาก เขาเห็นว่า การลดการทิ้งขยะเป็นทางแก้ไขเพียงทางเดียว ซึ่งก็เป็นหน้าที่สำคัญของสถานีพัก 18 แห่งด้วยเช่นกัน