เป้าหมายของจีนภายใน 2020 คือให้ประชาชนเป็น "เสี่ยวคัง" รายได้ปานกลาง พ้นความยากจน
(ที่มาภาพ: http://www.rmzxb.com.cn/c/2016-03-14/737110.shtml)
แก้ปัญหาความยากจนด้วยการจัดการกับพื้นที่ในชนบท
มีประเด็นอีกอย่างหนึ่งในการพยายามแก้ไขความยากจน คือ การจัดการกับพื้นที่ในชนบท เพราะว่าในชนบทของจีนมีปัญหา ภาคเกษตรของจีนมีปัญหาอย่างหนึ่ง คือ ในหลายๆ พื้นที่ผลิตได้มากเกินไป ได้มากเกินความต้องการ ผลผลิตออกมาล้นตลาด คือฟังปัญหาของจีนแล้วรู้สึกว่าคุ้นมากเลย คือคุณเป็นภาคเกษตร และคุณก็ผลิตออกมาได้เยอะมาก เสร็จแล้วไม่รู้จะส่งไปขายที่ไหนอหรือส่งไปขายเต็มที่แล้วก็ยังล้นตลาดอยู่ และราคาก็ปรับต่ำ พอราคาต่ำเกษตรกรก็ยากจน คุณภาพชีวิตก็ไม่ดี
รัฐบาลก็เลยมีความพยายามที่อยากจะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงพื้นที่ในชนบทให้กลายเป็นภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น พยายามที่จะชักนำประชาชนออกมาจากภาคเกษตร และออกมาทำอุตสาหกรรมแปรรูปอะไรต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้มูลค่าของสินค้าการเกษตรที่ผลิตได้เพิ่มมูลค่าขึ้นไป เพื่อให้รายได้สูงขึ้น แล้วก็ให้สินค้าที่ผลิตออกมาเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรล้นตลาด ดังนั้นก็มีการวางมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะขยายภาคอุตสาหกรรมไปในชนบทให้มากขึ้น
จีนกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
เราเคยได้ยินนโยบายลูกคนเดียวของจีนซึ่งพึ่งได้ยกเลิกไป แต่ว่าจีนอยู่ภายใต้นโยบายลูกคนเดียวเป็นเวลา 10 กว่าปี ดังนั้นจีนก็กำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างร้ายแรงมาก เพราะว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่ทุกคนเป็นลูกคนเดียวหมด จะต้องแบกรับภาระดูแลปู่ย่าตายายรวมทั้งลูกหลานของตัวเองด้วย ซึ่งในภาคเกษตรในชนบทที่ต้องการแรงงานมากกว่า ก็จะมีปัญหาที่หนักกว่าในเมือง
จริงๆ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก็มีประเด็นลักษณะคล้ายๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาทั่วไปก็คือว่าแรงงานจากชนบทหลั่งไหลเข้ามาทำงานในเมืองมากขึ้น ดังนั้นแรงงานที่จะทำงานในภาคเกษตรในชนบทเลยน้อยลง หรือขาดแคลน แล้วก็มาสร้างปัญหาอื่นๆ ในเมือง เพราะว่าคนเยอะเกินไปจนมีปัญหาสิ่งแวดล้อม มีปัญหาการว่างงาน มีปัญหาสังคมต่างๆ เยอะแยะมากมาย ซึ่งเขาก็พยายามแก้ปัญหานั้นด้วยการพยายามให้คนในชนบทอยู่ในชนบท แต่ย้ายจากภาคเกษตรเป็นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
ตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจตอกย้ำความสำเร็จของรัฐบาลจีน
แล้วก็อีกอันหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือรัฐบาลจีนได้ประกาศว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโต 6.5% สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องจีนเท่าไร จะมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจเติบโต 6.5% นี้สูงมาก เพราะว่าทั่วไป ก็มีที่เศรษฐกิจไม่โต ไม่ก็ติดลบ หรือว่าถ้าโต 1% หรือ 2% หรือ 3% ก็เยอะแล้ว แต่จะโตได้ถึง 6.5% เชียวหรือ แต่ถ้าท่านติดตามเรื่องของจีน ท่านจะเห็นว่าในทศวรรษที่ผ่านมา ทศวรรษสุดท้ายของศตวรรษที่ 20 และทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 จีนประกาศตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสองหลักเสมอ ซึ่งแทบจะไม่น่าเชื่อเลยเศรษฐกิจของประเทศจะโตถึงสองหลักได้อย่างไร 11% หรือ 12% แบบนี้ แต่ว่ามันก็เป็นเช่นนั้นมาเรื่อยๆ และก็พูดจริงๆ ว่าอันนี้ก็เป็นความชอบธรรมหลักของรัฐบาลจีนว่า ฉันจะอยู่แนวหน้า ฉันจะเป็นผู้ได้ เพราะว่าฉันทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ไม่มีใครทำได้เติบโตมากที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่องและก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก และมีแนวโน้มที่จะนำหน้าสหรัฐอเมริกาได้ด้วย และเป็นเจ้าหนี้ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา อันนี้คือความชอบธรรมของรัฐบาลจีนในยุคหลังจากปฏิรูปและเปิดประเทศ ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลจีนเป็นรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ก็จริง แต่ว่าในวิธีการบริหารประเทศต่างๆกลายเป็นทุนนิยมเยอะมากแล้ว
หลายๆ คนก็ว่ายากมาก คาดหวังสูงมาก มีความมั่นใจในตัวเองสูงเหลือเกินที่บอกว่า 6.5% เพราะดูทรงหลายๆ อย่างแล้ว อาจจะไม่ถึง 6.5% ด้วยซ้ำไป คุณจะทำอย่างไรหากมันไม่ถึง 6.5% คุณจะอธิบายความชอบธรรมของคุณอย่างไร และก็ตอนนี้ประชาชนชาวจีนก็คุ้นเคยกับคุณภาพชีวิตที่เพิ่มขึ้น คุ้นเคยกับอำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง เขาคาดหวังว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันประชาชนที่อยู่ในชนบท อยู่ในภาคเกษตรก็ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นกัน เมื่อเห็นคนในเมืองร่ำรวยไปเที่ยวเมืองนอก ชาวชนบทก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร หรือยังไม่ดีขึ้นเร็วเท่าที่ควร มันก็เป็นเรื่องอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐบาลจีนเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการคุยกันในเรื่องนี้ว่าจะจัดการอย่างไร