การประชุมสองสภาปี 2018 ของจีน ซึ่งชื่อเต็มคือ การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีนและสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมครั้งนี้ มีความหมายแตกต่างจากการประชุมที่ผ่านมา
ในยุคสมัยที่ประชาชนจีนทั่วประเทศกำลังก้าวสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ จีนจะมีข้อเสนอหรือมาตรการใหม่ๆ ในประเด็นไหน จากการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 19 เพื่อสร้างสังคมนิยมยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ของจีน และจีนจะพัฒนาตัวเองจาก " ทันสมัย " เป็น "นำสมัย" ใช้ทัศนคติใหม่ เพื่อไล่ตามความฝันของจีนที่ตั้งไว้มา 100 ปี
หมู่บ้านอาถู่เลี่ยเอิ่อ อำเภอจาวเจี๋ย เขตเหลียงซานของมณฑลเสฉวน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียง เพราะตั้งอยู่ในหุบเขา 1400-1600 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล จากโรงเรียนประถมที่ด้านล่างของภูเขา ไปหมู่บ้านบนยอดเขา ความสูงเกือบ 1000 เมตร เพราะฉะนั้น คนจีนเรียกหมู่บ้านแห่งนี้ชื่อเล่นว่า หมู่บ้านหน้าผา
เมื่อก่อน เด็ก ๆ จะไปโรงเรียน ต้องปีนหน้าผา 800 เมตร โดยใช้บันไดหวายเก่า 218 ขั้น แต่ตอนนี้ บันไดหวายเก่าถูกเปลี่ยนเป็นบันไดเหล็กกว่า 2000 ขั้น พร้อมเปิดโรงแรมการท่องเที่ยวชนบทแห่งแรกในหมู่บ้าน ปลูกมะกอกและโสมเทียมเพื่อการขาย หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจีน กำลังถูกดึงศักยภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ความยากจนและการเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านหน้าผา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เร่งด่วน และความยากลำบากในการแก้ปัญหาของพื้นที่ที่ยากจนมากหลายแห่งเช่นนี้
จริง ๆ แล้ว ในเขตเหลียงซานของมณฑลเสฉวน ซึ่งมีภูมิประเทศซับซ้อนมาก ตอนนี้ยังคงมีหมู่บ้านยากจนอย่างหมู่บ้านหน้าผาจํานวนมาก อัตราความยากจนของหลายพื้นที่ในภูมิภาคนี้ สูงถึง % 40 มนุษย์และสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่รวมกัน ไม่มีถนนทางหลวง เด็กไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียน ไม่มีเนื้อสัตว์เพื่อประกอบอาหาร ไม่มีน้ำสำหรับการอาบที่เพียงพอ
นายสี จิ้นผิง กล่าวรายงานในที่ประชุมสมัชชาฯ 19 ว่า จีนต้องสร้างเป็นประเทศเข้มแข็งทางสังคมนิยมที่ทันสมัยในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 บนพื้นฐานที่สร้างสังคมพอกินพอใช้ (สังคมผู้มีรายได้ปานกลาง) ในปี 2020 โดยขจัดความยากจนสมบูรณ์อย่างทั่วถึง
นายสี จิ้นผิง กล่าวรายงานในที่ประชุมสมัชชาฯ 19 ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาที่ถือประชาชนเป็นที่ตั้งตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโครงการช่วยเหลือคนยากจนประสบผลสำเร็จอย่างมาก มีประชากรกว่า 60 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน เฉลี่ยแล้วมีประชากรพ้นจากความยากจนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี อัตราความยากจนของจีนลดลงจาก 10.2% เป็นน้อยกว่า 4%
ปี 1986 เป็นต้นมา จีนเริ่มโครงการช่วยเหลือผู้ยากจนขนาดใหญ่ ในช่วงสิบกว่าปีมานี้ แต่ละปีเฉลี่ยแล้วประชากรยากจนลดจำนวนลงกว่า 6 ล้านคน และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ละปีลดลงกว่า 10 ล้านคน ถิอเป็นผลงานโดดเด่นที่ไม่เคยมีมาก่อน
ปีนี้ถึงปี 2020 มีเวลาแค่ไม่ถึงสามปี แต่ตอนนี้ ในประเทศจีน ยังมีคนจนมากกว่า 30 ล้านคน อำเภอที่มีอัตราความยากจนมากกว่า 18% จำนวน 229 แห่ง
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน นาย สีจิ้นผิง จัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการต่อสู้ความยากจนแบบเฉพาะเจาะจง โดยได้รับฟังรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานขจัดความยากจน รวมถึงร่วมหารือ หาวิธีและกลยุทธ์การต่อสู้ความกับยากจนในอีก 3 ปีข้างหน้า ปธน. สีจิ้นผิงเน้นว่า การขจัดความยากจนเป็นงานใหญ่ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่มั่งคั่งอย่างรอบด้าน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหนึ่งร้อยปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
การสร้างสังคมพอกินพอใช้ ต้องเน้นความสำคัญในทุกภาคส่วน รวมถึงการส่งเสริมการสร้างพัฒนาและรักษาระบบทางนิเวศวิทยา
นับได้ว่าปัจจุบัน สภาพสิ่งแวดล้อมในจีนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งหมดมาจากการต่อสู่อย่างต่อเนื่อง ในการจัดการอากาศ น้ำและที่ดิน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ลดลงของการปล่อยมลพิษอ และปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของสิ่งแวดล้อม
บนพื้นฐานของมาตรการที่มีอยู่แล้ว มาตรการต่าง ๆ ที่เพิ่งออกมาใหม่ในปี 2018 อย่างเช่นภาษีสิ่งแวดล้อม กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมมลพิษทางน้ำที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ชาวโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นและความมั่นใจของจีนในการต่อสู้เพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษ ทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นจุดสนใจของการประชุมสองสภาครั้งนี้
นายสี จิ้นผิง กล่าวรายงานในที่ประชุมสมัชชาฯ 19 ว่า จีนจะเร่งรัดจัดตั้งระบบกฎหมายและแนวนโยบายด้านการผลิตและบริโภคสีเขียว จัดตั้งระบบเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียนคาร์บอนต่ำและสีเขียว ส่งเสริมการเงินสีเขียว การบำบัดรักษามลพิษ เช่น อากาศ น้ำ และที่ดิน ยกมาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษ การเข้าร่วมการบำบัดรักษาภาวะแวดล้อมโลก มีปฏิบัติการในด้านการแก้ปัญหาภาวะแวดล้อมที่เด่นชัด ดำเนินโครงการรักษาและบูรณะซ่อมแซมระบบนิเวศวิทยา จัดตั้งกลไกอุดหนุนนิเวศวิทยาหลายด้าน จัดตั้งองค์การบริหารและกำกับดูแลทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศวิทยาของรัฐ จัดตั้งระบบบุกเบิกและรักษาดินแดนแห่งชาติ จัดตั้งระบบรักษาธรรมชาติที่ถือสวนสาธารณะของรัฐเป็นหลัก รายงานยังคาดว่า ระบบนิเวศวิทยาของจีนจะเปลี่ยนแปลงดีอย่างสิ้นเชิงในปี 2035 และจะบรรลุซึ่งเป้าหมายการเป็นประเทศที่สวยงามของจีน
เทศกาลตรุษจีนของปี 2018 กรุงปักกิ่ง ที่ห้ามมีการแสดงดอกไม้ไฟ ต้อนรับอากาศสดใส และมกราคมปีนี้ ไม่มีมลพิษที่รุนแรงแม้แต่วันเดียว นอกจากเรื่องสิ่งแวดล้อม ประชาชนจีนยังสนใจเรื่องต่าง ๆ อีกหลายเรื่อง ซึ่งรอคอยว่า ในการประชุมสองสภาครั้งนี้ จะมีมาตรการใหม่อะไรบ้าง เพื่อส่งเสริมการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน รวมถึงด้านการลดมลพิษอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านความปลอดภัยของอาหาร ด้านการศึกษา ด้านการดูแลสุขภาพ ด้านที่อยู่อาศัยและปัญหาสังคมผู้สูงวัยป็นต้น
สร้างสังคมที่มั่งคั่งอย่างทั่วถึง ขณะที่พยายามผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจ สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ แนวคิดการพัฒนาที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคิดเรื่องที่ประชาชนจีนคิด เข้าใจความต้องการของประชาชนจีน แก้ปัญหาที่ประชาชนจีนมี
สร้างสังคมที่มั่งคั่งอย่างทั่วถึง ต้องการโดยการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง จากการประชุมสมัชชา 19 จนการประชุมสองสภาปี 2018 ครั้งนี้ "การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง"เป็นคำหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยครั้ง
นายหลีว ซื่อจี่น สมาชิกสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน นักเศรษฐศาสตร์ เห็นว่า ขณะที่รักษาอัตราการเติบโต ก็ต้องเน้นการเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
ภายใต้ความคิดสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนในยุคสมัยใหม่ที่เสนอโดยสีจิ้นผิง ประชาชนจีนทุกคนจะรับผิดชอบในการพัฒนาประเทศจีนให้เจริญรุ่งเรือง พยายามเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสังคมจีน