เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา มีการปิดฉากลงสำหรับการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 1 ทั้งนี้ การประชุม "สองสภา"ของจีนที่เป็นที่จับตามองทั่วโลกก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยประชาชจีนทั้งหลายได้ติดตามข้อเสนอจากสมาชิกการประชุมจากหลายหลายวงการมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะข้อเสนอจากสมาชิกสภาคนดังของจีน ที่พวกเขามองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาล ซึ่งมีความครอบคลุมหลากหลายด้วยกัน ทั้งเศรษฐกิจ อุสาหกรรม การศึกษา เทคโนโลยี การแพทย์ การรักษาสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงด้านความบันเทิงอย่างภาพยนตร์ เป็นต้น นอกจากเหล่าสมาชิกคนดังแล้ว ปีนี้เรายังมีสมาชิกหน้าใหม่จากหลายวงการด้วย ส่วนจะมีข้อเสนออะไรที่น่าสนใจ และ ที่มีการเสนอในที่ประชุมสองสภาไปแล้วบ้าง วันนี้ก็ขอมาแนะนำสมาชิกสภาฯ "ใหม่แกะกล่อง" ของจีน และจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาและเธอ ได้เข้ามาอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน
จาง ลี่หมิง: นำเสนอ "แผ่นดินจีนอันสวยงาม" สู่ชาวโลก
เขตป่าไม้ไซ่ฮั่นป้า ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของมณฑลเหอเป่ย คำว่า "ไซ่ฮั่นป้า" เป็นคำที่ประกอบด้วยภาษามองโกเลีย กับ ภาษาจีน มีความหมายว่า "พื้นที่ราบสูงอันสวยงาม" เขตป่าไม้แห่งนี้มีพื้นที่กว้างถึง 93,000 เฮกตาร์ เนื่องจากการตัดไม้จำนวนมากเกินไปในอดีต ทำให้พื้นที่บริเวณนี้แห้งแล้งลงไปมาก และทำให้พายุทรายจากทางเหนือพัดเข้ากรุงปักกิ่งโดยไม่มีอะไรมากำบัง สร้างความเสียหายไม่น้อย ตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่นับร้อยคนเริ่มปลูกต้นไม้ทดแทนเพิ่มเข้าไปในพื้นที่เขตนี้ จากรุ่นปู่ สู่รุ่นพ่อ ไปยังรุ่นลูก ลืบต่อกันถึง 3 รุ่น ความพยายามในครั้งนั้น ทำให้มีจำนวนต้นไม้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก เดิมที่มีเหลือแค่ 11.4% กลายเป็นมากถึง 80% ปัจจุบัน เขตป่าไม้ไซ่ฮั่นป้าเป็นแหล่งน้ำสะอาดปริมาตร 137 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ช่วยหล่อเลี้ยงกรุงปักกิ่ง และนครเทียนจิน นอกจากนี้ ป่าไม้แห่งนี้ยังสามารถปล่อยออกซิเจนได้ถึง 545,000 ตัน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ที่ผ่านมา โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ประกาศมอบรางวัล "ผู้พิทักษ์โลก" ให้กับเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูเขตป่าไม้ไซ่ฮั่นป้าของจีน 3 คน ซึ่งเป็นรางวัลระดับสูงสุดด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
นายจาง ลี่หมิง ปีนี้อายุ 44 ปี หัวหน้าเขตป่าไม้เป่ยม่านเตี้ยน ที่สังกัดอยู่ในเขตป่าไม้ไซ่ฮั่นป้า ปีนี้ เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเขตป่าไม้มาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี หลังจากที่เขาได้รับเลือก นายจาง ลี่หมิง บอกว่า เขามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และเขาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมการประชุมสองสภาในปีนี้ โดยรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเขตป่าไม้จากประชาชนในพื้นที่ เป็นข้อเสนอเพื่อยื่นต่อที่ประชุม
แม้ว่านายจาง ลี่หมิง เป็นคนที่มีนิสัยไม่ช่างพูด แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องของป่าไม้ หรือ ต้นไม้แล้ว เขาก็จะกลายเป็นคนที่พูดได้ไม่รู้จบ ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างไปกับป่าไม้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ การอนุรักษ์ต้นไม้ การสร้างสรรค์เขตป่าไม้ ไปจนถึง การป้องกันแมลงไม่ให้ทำลายต้นไม้ จากประสบการณ์ที่ครบถ้วนของ นายจาง ลี่หมิง การประชุมสองสภาปีนี้ เขาได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเร่งส่งเสริมคุณภาพของป่าไม้อย่างเจาะจงแก่ที่ประชุม โดยเขากล่าวว่า จำเป็นต้องปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศในปัจจุบันไว้อย่างดี และ ดำเนินโครงการส่งเสริมคุณภาพของป่าไม้อย่างเจาะจง บนพื้นฐานสภาพที่เป็นจริงของทรัพยากรป่าไม้ โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลว่า
"จำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายการอนุรักณ์ระบบนิเวศอย่างรอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีพื้นที่เขตป่าไม้เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านหมู่ หรือ ประมาณ 6,700,000 เฮกตาร์" ซึ่งถือเป็นกำลังใจให้แก่นายจาง ลี่หมิงอย่างมหาศาล ศรัทธาอันสูงสุดของเขา คือ การนำเสนอความงามของจีนไปสู่สายตาชาวโลก
หวัง เจวียน: "หมอหัวรถจักร" ผู้ประกันความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
นางหวัง เจวียน เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหัวรถจักร ของกลุ่มบริษัทการรถไฟจีน สาขาเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง ดูจากลักษณะภายนอกของตัวเธอแล้วจะเห็นได้ว่า นางหวัง เจวียน ไม่ใช่คนที่มีรูปร่างแข็งแรงกำยำ แต่กลับเป็นคนที่ค่อนข้างผอมเสียด้วยซ้ำ ใครจะนึกออกว่าผู้หญิงที่มีรูปร่างเล็ก คนนี้ จะเป็นถึงวิศวกรระดับอาวุโส ของหน่วยงานรถไฟเมืองจี่หนาน และทำงานด้านการซ่อมบำรุงหัวรถจักรรถไฟมาเป็นเวลา 17 ปีแล้ว งานที่ผ่านมาของเธอนั้น สามารถตรวจพบความเสี่ยงด้านความปลอดภัยกว่า 200 ครั้ง หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้ง เพียงการมองไปที่หัวรถจักรไม่กี่วินาที ก็สามารถทำให้เธอรู้ว่า ชิ้นส่วนใดของหัวรถจักรเสียหาย หรือ ทำงานบกพร่อง ไม่ว่าจะมีขนาดเล็ก หรือ ใหญ่เพียงไรก็ตาม ทั้งนี้ก็มาจากความเชี่ยวชาญในงานของเธอ จนเพื่อนร่วมงานต่างขนานนามว่า "สุดยอดนักสืบหัวรถจักรหญิง"
ปีนี้ นางหวัง เจวียน ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนของมณฑลซานตง ช่วงบ่ายก่อนวันเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสองสภาที่กรุงปักกิ่ง นางหวัง เจวียน ยังนอนอยู่ใต้รถไฟเพื่อตรวจสภาพความพร้อมของหัวรถจักรอย่างละเอียด เธอบอกว่า แม้งานของฉันจะเป็นงานที่ทำเพียงคนเดียว แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างการเดินทางของผู้โดยสารจำนวนนับหมื่นนับแสนคน ไปจนถึงความปลอดภัยของครอบครัวจำนวนมากมายมหาศาล ฉะนั้น ฉันจึงรู้สึกว่า ภาระหน้าที่ของตัวเองมีความสำคัญ และต้องทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา นางหวัง เจวียน และ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนมณฑลซานตง โดยสารรถไฟความเร็วสูงขบวน G188 จากเมืองจี่หนานไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อเธอได้เห็นถึงร้อยยิ้มบนใบหน้าของเหล่าผู้โดยสาร การให้บริการอย่างทั่วถึงของพนักงานต้อนรับบนรถไฟ และ บรรยากาศอันอบอุ่นบนขบวนรถไฟ ทำให้นางหวัง เจวียน ประทับใจอย่างมาก โดยเธอได้กล่าวว่า เวลาเรานั่งรถไฟ คนที่ผู้โดยสารติดต่อด้วยบ่อยครั้งที่สุดย่อมเป็นพนักงานต้อนรับบนรถไฟ แต่ผู้โดยสารอาจนึกไม่ถึงว่า นอกจากพนักงานเหล่านี้แล้ว อันที่จริง ยังมีเจ้าหน้าที่อีกนับไม่ถ้วนที่ทำงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ พวกเราล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน นั่นก็คือ การทำให้รถไฟทุกขบวนสามารถเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย และ ตรงเวลา
การทำงานเกี่ยวกับรถไฟอย่างใกล้ชิดมาตลอด 17 ปีนี้ นางหวัง เจวียน ได้เป็นสักขีพยานต่อการพัฒนารถไฟของจีน เริ่มตั้งแต่ในสมัยก่อน จากเมืองจี่หนานไปยังกรุงปักกิ่ง ต้องใช้เวลาทั้งคืน ปัจจุบัน ขบวนรถไฟระหว่างเมืองจี่หนาน และ กรุงปักกิ่ง มีให้บริการทุกวันจำนวน 99 ขบวน และใช้เวลาการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่นายหลี่ เค่อเฉียงได้ประกาศในที่ประชุม ได้กล่าวถึง ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเส้นทางรถไฟ จากที่เคยมีกว่า 9,000 กิโลเมตรทั่วประเทศ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ ในฐานะที่เธอเป็นเหมือนพันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนกิจการรถไฟจีนให้เดินหน้าไปได้ นางหวัง เจวียน มีความภาคภูมิใจอย่างมาก ที่ตัวเองได้ทำประโยชน์ให้กับการพัฒนาด้านการรถไฟของประเทศ
ปีนี้นับเป็นครั้งแรกเช่นกันที่นางหวัง เจวียน ได้มีส่วนร่วมในการประชุมสองสภา เธอได้ยื่นข้อเสนอจากประสบการณ์การทำงานของเธอที่ได้ทำงานเกี่ยวกับการตรวจสภาพหัวรถจักร การที่นางหวัง เจวียน ติดนิสัยให้ความใส่ใจกับความปลอดภัยในทุกสถานที่ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น เธอจึงได้มีข้อเสนอเรื่องความปลอดภัยของผนังอาคารรอบสถานีรถไฟ โดยเธอมองเห็นว่า อายุการใช้งานของผนังดังกล่าวนี้ ที่จริงแล้วควรจะสั้นกว่าการใช้งานของอาคาร ดังนั้น จึงต้องให้ความสนใจกับการตรวจสภาพ การดูแลรักษา และการซ้อมบำรุงต่อผนังของอาคารเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน
นางหวัง เจวียน ในฐานะเป็นผู้แทนจากประชาชน การใช้ความชำนาญในหน้าที่การงานของเธอเป็นปากเสียงเพื่อประชาชนในการปกป้องความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสารหลายร้อยล้านคน ตัวเธอเองมีความหวังว่า การรถไฟจีนจะสามารถพัฒนาตัวเองให้กลายมาเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศได้ ทั้งการพัฒนาเครือข่ายเส้นทางรถไฟ อุปกรณ์ เทคโนโลยี นวัตกรรมของขบวนรถไฟ ตลอดจนการบริหารการขนส่งของรถไฟจีน จะทำให้จีนก้าวมาสู่ระดับแนวหน้าของโลกในการพัฒนาระบบรถไฟได้ในเร็ววัน
(Tim/Zi)