เหลยจุน ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอเสี่ยวหมี่ ซึ่งเขาได้รับชื่อเล่นจากแฟนจีนว่า "เหลย ปู้ซือ" เพราะสตีฟ จ็อบส์ชื่อภาษาจีนชื่อว่า เฉียวปู้ซือ ให้ชื่อเขา"เหลย ปู้ซือ"ก็หมายความว่า แฟนจีนถือเขาเป็น "สตีฟ จ็อบส์เมืองจีน"
เหลยจุนเคยพูดถึง "ปัญหาของสินค้าจีน" โดยเห็นว่าปัญหาหลักของสินค้าจีนที่คนไม่ค่อยพูดถึงคือปัญหาของโมเดลธุรกิจ (business model) ซึ่งก็คือบริษัทจีนขาดประสิทธิภาพในการกระจายสินค้า ทำให้ต้นทุนรวมในการผลิตและกระจายสินค้าค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้าอยากทำให้ราคาต่ำ ก็ต้องปรับลดคุณภาพ มุ่งจับตลาดล่าง ถ้าจะรักษาคุณภาพสินค้า ราคากลับจะสูงกว่า และแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศไม่ได้
ดังนั้นตั้งแต่ปี 2011 Xiaomi เริ่มขยายตัวเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเอง เหลยจุนจึงบุกตลาดด้วยแนวคิด "เทคโนโลยีระดับเรือธง ที่ไม่จำเป็นต้องราคาแพง" โดยได้เน้นการลดต้นทุนการกระจายสินค้า ขายเฉพาะในออนไลน์เท่านั้น ไม่มีหน้าร้าน และตั้งราคาตามต้นทุนการผลิตจริงโดยบวกกำไรในอัตราส่วนที่น้อยมาก เวลานั้น เสี่ยวหมี่ได้เปิดตัวมือถือ Mi One ยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น
เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ เหลยจุน ประกาศว่าตั้งเป้ากำไรสุทธิประจำปีของบริษัทไว้เพียง 5 เปอร์เซนต์ และหากมีกำไรเกินกว่านี้เมื่อใด กำไรที่เกินมาเหล่านั้น จะคืนให้กับลูกค้า เหลยจุนกล่าวว่า "ตั้งแต่แรกเริ่ม เราพัฒนานวัตกรรมคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างประสบการณ์บริการด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ ในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งเราหวังว่าผลิตภัณฑ์และบริการของเรา จะช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น"
นอกจากคุณภาพดีราคาถูกแล้ว เหลยจุนยังย้ำเน้นถึงความสำคัญกับความรู้สึกของผู้บริโภคสินค้าของเสี่ยวหมี่ เน้นดีไซน์ที่สวยงามน่าจับน่าใช้ โดยเสี่ยวหมี่ออกแบบสั่งทำควบคุมการผลิตตลอดกระบวนการด้วยตัวเอง อย่างเช่น แบตเตอรี่สำรองหรือพาวเวอร์แบงก์ซึ่งเป็นสินค้าสุดฮิตอีกตัวของเสี่ยวหมี่ก่อนหน้าที่จะวางตลาดนั้น พาวเวอร์แบงก์ที่มีขายอยู่ก่อนในตลาดมีราคาประมาณ 200 หยวน แต่รูปลักษณ์ไม่สวยงาม เหลยจุนสั่งลูกน้องใช้เวลา 4 เดือน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลคือเสี่ยวหมี่สามารถผลิตพาวเวอร์แบงก์ขายได้ในราคา 69 หยวน แถมดีไซน์ยังสวยงามน่าใช้ จึงขึ้นแท่นครองตลาดภายในวันแรกที่เปิดให้สั่งซื้อออนไลน์ เหลยจุนเชื่อมั่นว่าในช่วงทศวรรษหน้าเราจะเห็นการเกิดขึ้นของสินค้าแบรนด์จีนอีกมาก นำโดยเสี่ยวหมี่ที่มีราคาถูก คุณภาพดี ดีไซน์สวยงามน่าใช้
เหลยจุนมองว่าหัวใจอีกอย่างที่จะทำให้แบรนด์จีนผงาดได้ ก็คือการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่สามารถควบคุมต้นทุนการกระจายสินค้าให้ต่ำและให้ความสำคัญกับความรู้สึกและรสนิยมของผู้บริโภค
เสี่ยวหมี่พยายามวางตัวเองเป็นมวยรองในตลาดสมาร์ทโฟนโลก แต่ก็แอบแง้มว่าอยากเป็น global brand ด้วยกลยุทธ์ตั้งราคาให้ย่อมเยา (ถูกกว่าครึ่งของ iPhone) และลดราคาจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากการตัดมาร์จินหน้าร้านแบบเดิมๆ มาขายออนไลน์ล้วนในจีน อินโดนีเซีย ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ที่ผ่านมา เสี่ยวหมี่ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ซึ่งคุณสมบัติหรือฟังก์ชั่นการใช้งานได้ผ่านการพิสูจน์จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
ในด้านฮาร์ดแวร์เสี่ยวหมี่คิดไปไกลกว่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว เช่น สมาร์ททีวี Mi Band เป็นอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพแบบสวมใส่ติดตัว หูฟัง เครื่องชั่งน้ำหนัก กล้องแอ๊กชั่นแคม แบตเตอรี่สำรอง เครื่องฟอกอากาศเป็นต้น
แฟน ๆ ของเหลยจุนติดฉลากหลายชิ้นให้เขา อันที่หนึ่งก็คือ เป็นซีอีโอที่ไม่ฟุ่มเฟือย ในไมโครบล็อกจีน ชาวเน็ตจำนวนมากเคยพบเหลยจุนลากกระเป๋าใหญ่ รอคิวเข้าไปในชั้นประหยัดของเครื่องบินโดยสาร โดนชาวเน็ตล้อว่า "ธุรกิจอินเตอร์เน็ตเข้าสู่ฤดูหนาวจริง ๆ" แต่เวลานั้น เหลยจุนเป็นประธานของบริษัทมีมูลค่าในตลาด 4.5แสนล้านดอลลาร์
ฉลากอันที่สองก็คือ ภาษาอังกฤษไม่ดี เรื่องที่ได้รับความสนใจจากแฟนของเหลยจุนคือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเข้าร่วมงานการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่อินเดีย เหลยจุนทักทายกับแฟน ๆ อินเดียโดยภาษาอังกฤษ กลายเป็นสุนทรพจน์ที่โด่งดังข้ามคืนแชร์กันเป็นหมื่นเป็นแสนแชร์ในโซเชียลมีเดีย เขาใช้สำเนียงจีนพูดภาษาอังกฤษแบบมีความตึงเครียดมากว่า "Hello Mi Fans, Are you OK? Do you like MI?" หลังจากนั้น เมื่อเหลยจุนเข้าร่วมรายการโทรทัศน์หรือกิจกรรมต่าง ๆ พิธีกรก็จะเรียกเขาไปพูด "Are you OK?" อีกครั้ง เหลยจุนกล่าวว่า "นักศึกษาควรเรียนภาษาอังกฤษให้ดีตั้งแต่ปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย ภาษาอังกฤษของตนเองไม่ดี ทำให้มหาวิทยาลัยเขาขายหน้า"
เหลยจุนเป็นคนฉลาดมาก กลายเป็นเศรษฐีเมื่อปี 3 ในมหาวิทยาลัย ได้รับเงินรายแรกนี้โดยช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ให้คนอื่น เหลยจุนเป็นคนมุ่งมั่น ภายใต้ความมุ่งมั่น และการผลักดันของเขา ทีม Kingsoft ได้ออกหลักทรัพย์เสนอขายแก่ประชาชน และกลายเป็นธุรกิจซอฟต์แวร์จีนที่ใหญ่ที่สุดในวันนี้ เหลยจุนเป็นคนที่มีความฝัน ในฐานะที่เป็นขวัญใจของนักลงทุน เขาช่วยให้ผู้ประกอบการจำนวนมากบรรลุความฝันของพวกเขา และได้บรรลุความฝันของตนเองด้วย ซึ่งก็คือสร้างธุรกิจที่ได้รับความชื่นชมจากทั่วโลก