กรณีสงครามการค้าที่ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องนั้น จีนยึดหลักการที่ว่า "ไม่อยากเล่น แต่ไม่กลัวที่จะเล่น และจำเป็นต้องเล่นในยามจำเป็น" ด้วยปฏิบัติการอันเฉียบขาด นั่นก็คือ ลงลึกการปฏิรูปและเปิดเสรีมากขึ้น และปฏิบัติภารกิจของจีนเองในลักษณะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
กล่าวสำหรับรัฐบาลสหรัฐแล้ว การเพิ่มภาษีศุลกากรให้สูงขึ้นไม่เพียงแต่เพื่อยับยั้งการพัฒนาของจีนและรั้งตำแหน่ง "สหรัฐเป็นอันดับที่ 1" เท่านั้น หากยังมีการไตร่ตรองอีกระดับหนึ่ง
คำถามที่ตามมาคือ มาตรการเพิ่มภาษีศุลกากรให้สูงขึ้นจะสามารถดูแลความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐได้จริงหรือ? เหล่าข้าราชการของรัฐบาลสหรัฐก็คงยังไม่แน่ใจนัก แต่สิ่งที่พวกเขาแน่ใจก็คือ จะนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่สหรัฐ โดยมองข้างความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและผู้บริโภคสหรัฐเอง
สงครามการค้าทำให้ผลิตภัณฑ์นมสหรัฐที่พึ่งพาการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ในเวลานี้ต้องปรับราคาลดลงมาอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐต่อ 100 ปอนด์ รวมถึงทำให้สินค้าต่างๆ ในตลาดสหรัฐ ตั้งแต่โคคาโคล่า ถึงรถอาร์วี (RV) ตั้งแต่ตุ๊กตาถึงเสื้อผ้า ต้องปรับราคาสูงขึ้นตามกระแส
(BO/LING/CAI)