การตัดสินใจที่ไม่เป็นไปตามเหตุผลของสหรัฐฯ ทำให้สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะยกระดับรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อหลายวันก่อน สหรัฐฯ ยังได้เชิญชวนจีนไปเข้าร่วมการเจรจาการค้ารอบใหม่ ฝ่ายจีนแสดงความยินดี ตลาดทั่วโลกก็ฟื้นตัวบ้าง แต่ในวันนี้ สหรัฐฯ ประกาศเวลาการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนอีก 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯอย่างฉับพลัน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะบีบบังคับจีนอย่างสุดขีด เพื่อหวังได้รับค่าตอบแทนสูงยิ่งขึ้น สำหรับการนี้ ฝ่ายจีนต้องชี้ให้เห็นว่า การมุ่งมั่นเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มของสหรัฐฯ เป็นการนำความไม่แน่นอนใหม่มาให้กับการเจรจาของสองฝ่าย หวังว่าสหรัฐฯ จะเห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากการกระทำเช่นนี้ ใช้วิธีการที่น่าเชื่อถือเพื่อปรับปรุงความผิด
อันที่จริง ไม่ว่าสหรัฐฯ จะมีการกระทำผิดปกติอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากมายเท่าไหร่ จีนก็มีความมั่นใจและกำลังใจที่จะจัดการเรื่องของตนอย่างดี ปกป้องผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศและประชาชนอย่างเด็ดขาด และพิทักษ์ระบบการค้าเสรีแบบพหุภาคีของโลกอย่างแน่วแน่
ก่อนอื่นๆ บัญชีรายชื่อเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯประกาศนั้น มีสินค้าจำนวนมากที่มีส่วนผลิตในจีนน้อยมาก แต่กลับจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้บริโภคของสหรัฐฯ
นอกจากนั้น ต้นเดือนสิงหาคม จีนประกาศจะเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มที่มีแบ่งอัตราภาษีหลายระดับต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มุลค่าประมาณ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น แสดงให้เห็นถึงความยับยั้งชั่งใจตามเหตุผลของจีน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดผลกระทบต่อผู้บริโภคและวิสาหกิจผู้ผลิต
และประการที่ 3 ครึ่งแรกปีนี้ เศรษฐกิจจีนมีส่วนพึ่งพาอาศัยการค้าต่างประเทศน้อยลงเป็น 33.7% ในจำนวนนี้ มีส่วนพึ่งพาอาศัยการค้าต่อสหรัฐฯ ลดลงเหลือเพียง4.6 % เท่านั้น การนี้หมายถึง การเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้มาจากการลงทุนและการบริโภรคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน จีนมีตลาดใหญ่หลวงที่มีประชรกรเกือบ 1,400 ล้านคน และระบบอุตสาหกรรมการผลิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก มีความเหนือกว่าด้านระบบการวางแผนพัฒนา และยุทธศาสตร์การเปิดสู่ภายนอกอย่างไม่หวั่นไหว ทั้งนี้ เป็นหลักประกันที่ทำให้จีนมีความสามรถต้านทานแรงกระทบจากภายนอกทั้งสิ้น และดำเนินงานการพัฒนาของตนอย่างดีต่อไป
(Bo/Lin/zhou)