คำพูดที่เหลวไหลไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ แสดงว่า ในเรื่องการจัดการความสัมพันธ์กับจีน สหรัฐฯ เองมัวแต่กังวลต่อสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นความจริงดังกล่าว และถูกบริษัทแอปเปิล แอมะซอนและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่น ๆ ตลอดจนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ปฏิเสธว่าไม่จริง แต่ก็ยังไม่หยุดนำเสนอข่าวเท็จใส่ร้ายจีนต่อ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกพากันดิ่งลง โดยตลาดหุ้นแนสแด็กสร้างสถิติดัชนีร่วงลงหนักที่สุดในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม ต่อให้โกหกพันครั้งก็ไม่มีทางจะกลายเป็นความจริง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.โรเบิร์ท ลอว์เรนส์ คุน ผู้เชี่ยวชาญปัญหาระหว่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญจีนของสหรัฐฯ กล่าวขณะเข้าร่วมการเสวนาคลังปัญญาจีน-สหรัฐฯ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่า หากพบว่าถูกแอบฝังไมโครชิปในคอมพิวเตอร์เพื่อลักลอบโขมยข้อมูลบางส่วน ผลที่ได้ตามมา คือ ต้องสูญเสียห่วงโซ่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งประเทศ ดังนั้น จึงไม่มีใครทำสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสียเช่นนี้
ด้านดร.วิลเลี่ยม โอเวอร์โฮล์ท วิทยากรจากศูนย์เอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมองว่า เรื่องการใช้สายลับฝังไมโครชิป จะถูกพวกลัทธิชาตินิยมในสหรัฐฯ นำมาสร้างเป็นข่าวครึกโครม โดยเฉพาะในช่วงที่ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มีความอ่อนไหว พวกเขาจะเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปรับนโยบายต่อจีน ลดการพึ่งพาจีน นักการเมืองสหรัฐฯ จำนวนไม่น้อยอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้
หากสหรัฐฯ มัวแต่กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และมองการพัฒนาของจีนด้วยความกังวลแบบไร้เหตุผล จะทำให้จีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก ต้องสูญเสียโอกาสความร่วมมืออีกมากมาย จนสร้างความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนให้กับทั่วโลกต่อไป
Min/Tim/Zhou