มหาเศรษฐีธุรกิจออนไลน์ระดับพันล้านรวยไม่ลืมพระคุณ แจกอั่งเปาผู้เฒ่าบ้านเกิด เป็นหัวข้อข่าวแพร่กระจายทั่วประเทศจีน หลิวเฉียงตงถืออั่งเปาเป็นเงินรวม 6.5 ล้านหยวน หรือราวมากกว่า 30 ล้านบาท ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านเกิดอันห่างไกล แจกอั่งเปาให้คนแก่อายุ 60 ปีขึ้นไปในหมู่บ้าน จำนวน 650 กว่าคน โดยใส่ซองคนละ 10,000 หยวน หรือราว 50,000 บาท นอกจากนี้ เขาตั้ง Call center ของจิงตงอยู่ในเมืองซู่เชียน และโน้มน้าวให้บริษัทอื่นตั้ง Call center เพื่อส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาบ้านเกิด

หลิวเฉียงตงเคยบริจาคให้เด็กกำพร้าเมื่อเขาเองยังยากจนมาก ปัจจุบันบริษัทจิงตงมีโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนหลายโครงการ ในแต่ละปีสามารถช่วยครอบครัวหลายพันแห่งลดความยากจน มีครั้งหนึ่ง มีพนักงานของบริษัทจิงตงเห็นคนตกน้ำในระยะทางการจัดส่งสินค้า รีบไปช่วยชีวิตคน ในที่สุด ผู้ที่ตกลงไปในน้ำรอดชีวิต แต่กลายเป็นว่าพนักงานจินตงเสียชีวิต หลิวเฉียงตงในนามส่วนตัว ให้การชดเชยกับครอบครัวของพระเอกการคนนี้มากมาย และสัญญาว่าจะเลี้ยงลูกของเขาถึงอายุ 22 ปีโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

หลิวเฉียงตงในทางชีวิต เป็นคนอ่อนโยน ใจดีและมีเมตตา ในทางธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อเล่นสงครามราคากับบริษัทอื่น ๆ กลายเป็นคนกล้าหาญและฉลาดแกมโกง

บริษัทจิงตงเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซ ( e-commerce)ประเภทขายตรง (Online Direct Sales Company) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้จดทะเบียนที่ตลาด หลักทรัพย์ Nasdaq สหรัฐฯ ทำให้บริษัทจิงตงกลายเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตรายที่ 3 ของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รองจากบริษัท Tecent และบริษัท Baidu

นอกจากพัฒนาธุรกิจในประเทศจีน หลิวเฉียงตงยังให้ความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจในประเทศไทยด้วย จริงๆแล้วจิงตงได้ขายสินค้าแบรนด์ไทยมานานแล้ว และได้ยินว่า และอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า จิงตงตั้งเป้าที่จะผลักดันยอดขายสินค้าไทยให้สูงถึง 1 แสนล้านบาท และเมื่อเร็ว ๆ นี้ JD.com ก็เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในไทยแล้วโดนจับมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เมื่อปี 2017 หลิว เฉียงตง กล่าวที่กรุงเทพฯ ว่า กลุ่มจิงตงจะนำเทคโนโลยีโลจิสติกส์ระดับโลก อย่างระบบโลจิสติกส์ทันสมัยของจีน มาช่วยเป็นแรงกระตุ้นการขายปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกโลจิสติกส์ตลอดจนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของไทย เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ศูนย์โลจิสติกส์อัจฉริยะที่ทันสมัยและสมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทจิงตง สร้างขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ศูนย์โลจิสติกส์อัจฉริยะแห่งนี้ เป็นระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะที่ให้บริการซัพพลายเชนอย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยคลังสินค้า การเรียงลำดับ การขนส่ง รวมทั้งการกระจายสินค้า และเน้นความเร็วในการส่งสินค้าเป็นหลัก ปัจจุบันโลจิสติกส์จิงตงได้สร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ได้ขนส่งสินค้าขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ อยู่ในขอบเขตทั่วประเทศไทย ยังได้ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้เปิดบริการจัดส่งโดยจำกัดเวลา ผู้บริโภคกรุงเทพฯ จะได้ประสบบริการ"สั่งซื้อสินค้าในช่วงเช้า รับสินค้าในช่วงบ่าย"

หลิวเฉียงตงเคยกล่าวว่า "ได้ยินคนรอบข้างพูดบ่อย ๆ ว่าโอกาสของตัวเองน้อย และอิจฉาคนอื่นที่มีโอกาสดีกว่า ผมเห็นว่า โอกาสไม่ใช่ได้มาโดยการออกไปค้นหา แต่ต้องสร้าง ขึ้นมาด้วยเราเอง"

ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะของจิงตงกล่าวได้ว่าเป็นเร็วที่สุดในจีน มีสถิติในการส่งสินค้าที่เร็วที่สุดคือ 4.31 นาที เมื่อถึงเทศกาลช้อปปิ้ง จิงตงก็จะส่งสินค้าอันแรกไปผู้บริโภคเร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาระบบการส่งสินค้าด้วยโดรนและรถยนต์ไร้คนขับ ในด้านการบริหารจัดการคลังสินค้า จิงตงก็ใช้หุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ เมื่อปี 2016 มีข่าวว่า จิงตงทดลองจัดส่งสินค้าไปยังหมู่บ้านในมณฑลส่านซีด้วยอากาศยานไร้คนขับและได้ประสบความสำเร็จ กระบวนการการจัดส่งสินค้าครั้งนั้น เป็นแบบฉบับของการจัดส่งสินค้าโดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ หลังจากใช้ระบบอัตโนมัติบรรจุสินค้าแล้ว จะส่งสินค้าโดยโดรนจากจุดส่งสินค้าของบริษัทจิงตงไปยังศูนย์กระจายสินค้าย่อยในชนบท โดยบินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ การบิน การลงจอด และการบินกลับ จะใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมดเหมือนกัน ในขณะบินเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเส้นทางการบิน และข้อมูลรายละเอียดอื่น ๆ ได้ตลอดเวลา ในด้านความปลอดภัย ติดตั้งร่มชูชีพที่ตัวโดรน หากเครื่องขัดข้องร่มชูชีพจะเปิดใช้โดยอัตโนมัติ กุมภาพันธ์ปีนี้ JD.com มอบเงินลงทุนให้กับ JD Logistics จำนวน 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนาด้านการจัดส่งสินค้าแบบอัตโนมัติ การใช้โดรน และการใช้หุ่นยนต์สำหรับการขนส่ง ( JD.com มีบริการส่งสินค้าและพัสดุเป็นของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2007 แล้ว และล่าสุด JD.com แยกแผนกที่จัดการด้านส่งสินค้าและพัสดุออกมาเป็นอีกหนึ่งบริษัทในชื่อ JD Logistics เมื่อเดือนเมษายน 2017 ที่ผ่านมา ) ในอนาคต ทิศทางการพัฒนาการขนส่งสินค้าโดยใช้โดรนคือการเพิ่มน้ำหนักและรัศมีของการขนส่งสินค้า เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง โดยสามารถย่นระยะเวลาและลดต้นทุนในการขนส่งได้อย่างมาก

หลิวเฉียงตงเคยกล่าวว่า หวังว่าเมื่อเขาเกษียณอายุ ผู้คนจะพูดถึงเขาว่า"เขาเป็นคนดี" ฟังดูว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าอยากให้เกิดขึ้นจริง ๆ น่าจะมีอีกหลายอย่างที่ยังต้องทำ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของหลิวเฉียงตงทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ของการโต้กลับของสามัญชน คนที่เกิดจากครอบครัวที่ร่ำรวยมีจำนวนน้อย สภาพของผู้คนส่วนใหญ่ใกล้กับหลิวเฉียงตงในวัยหนุ่ม สถานการณ์ที่ไม่มีอะไร พัฒนาธุรกิจของตนเอง เป็นคำถามยากที่จะหาคำตอบได้ เรื่องราวการต่อสู้กับความจนของหลิวเฉียงตง เป็นแรงบันดาลใจ และกําลังใจสำหรับบุคคลทั่วไป

Bo/Patt