.ลงคะแนนเสียงในมหาศาลาประชาชน

หลังสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 1949 เหมย หลานฟางได้ดำรงดำแหน่งที่ปรึกษาสภาการเมือง ผู้อำนวยการสถายันวิจัยอุปรากรจีน สถาบันการศึกษาศิลปะการประพันธ์บทละคร สถาบันงิ้วปักกิ่ง ช่วงนี้เขาได้มุมานะทำงานเพื่อชาติ จนเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1959 และยังคงทำงานเพื่อแผ่นดินแม่ตราบจนลมหายใจสุดท้ายในปี 1961 ด้วยอายุ 67 ปี

พิพิธภัณฑ์เหมย หลานฟาง ตั้งอยู่ที่ถนนหูกัวซื่อ เปิดให้สาธารณชนเข้าชมตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งเป็นบ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่ระหว่างช่วงสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

ในปี 1965 ครอบครัวเหมย ได้มอบของที่เหมย หลานฟางสะสมมาตลอดชีวิต อาทิ หนังสือ ภาพเขียนจากศิลปินชื่อดัง อักษรภาพ หินแกะสลัก รวมถึงโบราณวัตถุต่างๆ ให้กับรัฐบาล ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เกือบทั้งหมด ยังคงเก็บรักษาไว้ในบ้านหลังนี้ เพื่อให้ผู้คนที่รักและสนใจชีวิตของมหาบุรุษแห่งอุปรากรจีนได้มากศึกษาและชื่นชม

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 700 ตารางเมตร หน้าประตูทางเข้ามีแผ่นป้ายชื่อพิพิธภัณฑ์ที่เขียนโดยลายมือของประธานเติ้ง เสี่ยวผิง เมื่อผ่านประตูแรกเข้าไปจะพบรูปปั้นหินอ่อนสีขาวของเหมย หลานฟาง แย้มยิ้มต้อนรับผู้มาเข้าชม ด้านซ้ายมือเป็นห้องที่แสดงรูปภาพตั้งแต่วัยเยาว์ การแสดง และการเดินทาง ซึ่งสามารถทำให้เห็นพัฒนาการทั้งในเรื่องการแสดงและสังคมในชั่วชีวิตของเหมย หลานฟาง

หลังเดินข้ามอีกหนึ่งประตูเข้าสู่ลานบ้านแบบซื่อเหอย่วน ซึ่งรายล้อมด้วยห้องทั้ง 3 ทิศด้านซ้ายจะเป็นห้องที่แสดงภาพเขียนของเหมย หลานฟาง และภาพสะสมที่เพื่อนศิลปินมอบให้ ส่วนห้องด้านขวามือจัดแสดงชุดสำหรับการแสดง หมวก และเครื่องประดับ และห้องที่อยู่ตรงกลางเป็นส่วนที่อยู่อาศัย ทั้งห้องรับแขกและห้องนอน ซึ่งได้ถูกอนุรักษืไว้ดังเช่นเมื่อครั้งที่เหมยหลานฟางยังมีชีวิตอยู่