สำหรับท่านผู้ฟังที่มีปัญหาเรื่องหลงทิศ ถ้าอยู่ในปักกิ่งเรื่องที่ท่านกังวลนี้ก็จะหมดไปทันที เพราะว่าที่ป้ายบอกชื่อถนนหลักของกรุงปักกิ่งนั้น นอกจากจะบอกชื่อถนนแล้ว ยังระบุทิศไว้ด้วย และถ้าอ่านไม่เข้าใจ ก็ให้ดูที่สี ถ้าป้ายสีเขียวแสดงว่าเป็นถนนที่มุ่งไปทางทิศเหนือและใต้ ส่วนป้ายสีขาวจะมุ่งไปทางตะวันออกและตะวันตก แค่นี้ท่านก็จะไม่มีวันเดินหลวงทางเป็นอันขาด ยกเว้นว่าจะเข้าไปเดินในหูถ้งที่วกไปวนมา
อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "หงโหลว" หรือ "ตึกแดง" ตามสีของอิฐที่นำมาก่อเป็นตึกขนาด 5 ชั้นนี้ โดยถูกออกแบบให้เป็นรูปตัวอักษร "ไอ" ในภาษาอังกฤษ ตึกนี้สร้างขึ้นในปี 1916 เพื่อใช้เป็นชั้นเรียนของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แต่ตลอดช่วง 90 กว่าปีที่ผ่านมานี้ อาคารแห่งนี้ได้ถูกดัดดแปลงใช้สอยต่างๆ กันหลายอย่าง อาทิ เคยเป็นหอพักนักศึกษา สำนักงานของมหาวิทยาลัย หอสมุด ห้องเรียนวิชาศิลปศาสตร์ และในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองปักกิ่ง ที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์บัญชาการทหาร และยังใช้ชั้นใต้ดินเป็นที่คุมขังและทรมานนักโทษที่เป็นนักปฏิวิตกู้ชาติด้วย ภายหลังที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม มหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ได้กลับเข้ามาใช้งานตึกนี้อีกครั้ง ก่อนจะกลายเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติปัญญาชนในปี 1949
รูปปั้นเฉินตู๋ซิ่ว ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน