ซึ่งต่อมาบุรุษจากมณฑลอันฮุยผู้นี้ก็ได้กลายมาเป็นประธานคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนคนแรก ซึ่งนับได้ว่าเขานี่แหละเป็นผู้ชูคบเพลิงส่องทางให้ประเทศจีนเดินมาตามเส้นทางนี้ด้วยความสำเร็จอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ห้องนี้มีรูปปั้นเกือบเต็มตัวทำด้วยสำริดเฉินตู้สิ้วสวมสูทแบบสากล และยังมีโต๊ะทำงานของเขาที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี นอกจากภาพถ่ายแล้วก็ยังมีผลงานหนังสือหลายเล่มที่เขาเป็นผู้จัดทำแสดงไว้ด้วย
ห้องถัดไปทางปีกตะวันออกเป็นห้องของผู้อำนวยการหอสมุดของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งหลี่ต้าเจานั่งทำงานประจำอยู่ระหว่างเดือนมกราคมปี 1918 ถึง ธันวาคม ปี 1922 เขาได้ทำภารกิจสำคัญยิ่งแก่นักศึกษาและผู้วิจัยต่างๆ ด้วยการยกเครื่องและปฏิรูประบบการเก็บหนังสือของห้องสมุดแบบโบราณมาเป็นแบบสมัยอย่างที่ห้องสมุดควรจะเป็นอย่างแท้จริง
หลี่ต้าเจาเป็นคนแรกๆ ในประเทศจีนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติรัสเซียและเริ่มศึกษากระบวนการและลัทธิมาร์กซิสต์อย่างจริงจังและประกาศตนเป็นมาร์กซิสต์ด้วย ก่อนที่เขาจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนจัดตั้งของวอยตินสกี้ในปี 1920 เกี่ยวกับการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ในห้องทำงานของเขาแห่งนี้ เขาร่วมกับจางกัวเถา และจางเชินฟู่ ก่อตั้ง "กลุ่มคอมมิวนิสต์" ขึ้น โดยเขาเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่าง
กำแพงหินรูปใบหน้าหลู่ซิ่น