"นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจัดแสดงในหัวข้อ "ความประทับใจจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก" ซึ่งทรงบันทึกภาพไว้ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินมาร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปักกิ่ง เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ส่วนที่สอง เป็นภาพจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เขตปกครองตนเองทิเบต มณฑลกุ้ยโจว เขตปกครองตนเองซินเจียง และมณฑลอื่นๆ นิทรรศการในครั้งนี้ได้บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอารยธรรมอันยาวนานของจีนจากอีกมุมหนึ่ง และหวังว่า ผู้ชมจะได้รับรู้ถึงความประทับใจอันแสนงดงาม และความผูกพันอันล้ำลึกของใต้ฝ่าพระบาทที่ทรงมีต่อประเทศ และประชาชนชาวจีนผ่านภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เหล่านี้" 

ภาพพระพุทธรูปที่วางคู่กับภาพของหมอฝรั่งผู้ช่วยรักษาชาวจีน

ภาพแมวที่ทิเบต

และมาดามจ้าว ซ่าวหัวยังกล่าวอีกถึงที่มาที่ไป จนทำให้เกิดภาพถ่ายเหล่านี้ขึ้นมาว่า

"ใต้ฝ่าละอองพระบาทได้ทรงมุมานะศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจีนมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนแล้ว 26 ครั้ง และทรงเป็นทูตสันถวไมตรีที่ประชาชนทั้งชาวจีนและชาวไทยให้ความรักและความเคารพนับถืออย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ ใต้ฝ่าละอองพระบาทได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ในจีนครบถ้วนแล้ว ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ และมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการพัฒนามิตรภาพระหว่างจีนไทย"

จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้นำบุคคลสำคัญทุกคนและผู้ติดตามเสด็จพระราชดำเนินชมภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ พร้อมทั้งอธิบายคร่าวว่า แต่ละภาพนั้นถ่ายที่ใดบ้าง และความรู้สึกขณะที่ถ่ายภาพนั้นๆ โดยมีวงดนตรีจีน 4 ชิ้น ประกอบด้วย ซอ พิณ กูเจิ้ง และปี่ บรรเลงขับกล่อมให้บรรยากาศรื่นเริง

                 ภาพที่ทิเบต                  บางส่วนของพระราชนิพนธ์