ขณะเสด็จฯ ผ้านภาพต่างๆ นั้น ทรงมีพระราชปฏิสัณถานกับมาดามจ้าว เซ่าหัวด้วยภาษาจีนอย่างเป็นกันเอง และทรงหยุดให้ช่างภาพฉายพระรูปพร้อมกับบุคคลสำคัญอื่นหน้าภาพที่ทรงประทับใจ

ทรงใช้เวลาในงานครั้งนี้ 1 ชั่วโมงเศษ จึงเสด็จกลับที่พำนัก

นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ครั้งนี้จะจัดระหว่างวันที่ 8 ถึง 15 เมษายน ท่านผู้ฟังมีโอกาสเดินทางมาประเทศจีนในช่วงนี้ ต้องแวะเข้ามาชื่นชมพระปรีชาสามารถในการถ่ายภาพของพระองค์ และชื่นชมประเทศจีนผ่านกล้องส่วนพระองค์ ดังชื่องานที่ว่า "China Through the Eyes of Thai Princess Sirinthorn" หรือ "ประเทศจีนในสายตาฟ้าหญิงไทย"

ภาพที่จัดแสดงในครั้งนี้มีมากถึง 119 ชิ้น

หอสหัสวรรษ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงอธิบายถึงผลงานของพระองค์ไว้ในจดหมายข่าวสำหรับนักข่าวว่า ภาพส่วนแรกนั้นเกี่ยวกับโอลิมปิกกิ่ง 2008 ซึ่งจีนจัดได้ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ทัพนักกีฬาไทยเองก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ และได้รับผลสำเร็จที่งดงาม พระองค์จึงใช้กล้องบันทึกห้วงเวลาที่ล้ำค่านี้ไว้ ในแง่มุมหนึ่งของคนไทยคนหนึ่ง

สำหรับส่วนที่ 2 ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า การเดินทางมาเยือนจีนแต่ละครั้งมีความประทับใจไม่เหมือนกัน จึงบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก เพื่อเป็นความทรงจำที่ยั่งยืน

ผลงานบางส่วนจากทั้งหมด 119 ชิ้น

โดยทรงหวังว่าการจัดนิทรรศการครั้งนี้ จะแสดงถึงความลึกซึ้ง และความรู้สึกต่อคนจีน ประเทศจีน ยินดีที่ได้แบ่งปันความสนุกสนานจากรูปถ่ายกับประชาชนจีน

นอกจากนี้นายลี่ อิงเจี๋ย อุปนายกสมาคมช่างภาพ กรุงปักกิ่ง กล่าวในจดหมายข่าวฉบับเดียวกันวิเคราะห์การถ่ายภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ว่า เป็นคนที่ชอบถ่ายรูป เพื่อบันทึกความทรงจำ ภาพทั้ง 119 รูปได้บันทึกไว้อย่างงดงาม สามารถมองเห็นว่า พระองค์ทรงชื่นชมความยิ่งใหญ่ของจีนหลังปฏิรูปและเปิดประเทศ และความยิ่งใหญ่ของโอลิมปิก ปักกิ่ง ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของการจัดงาน และชัยชนะร่วมกันของเอเซีย