"สงครามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา" ที่เลวร้ายผ่านไปแล้วหรือยัง
  2010-10-26 17:27:16  Xinhua
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่เมืองเจียงจู ของเกาหลีใต้มีจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี 20 โดยประเทศต่างๆ ล้วนให้คำมั่นสัญญาว่า จะใช้มาตรการหลีกเลี่ยงการเกิด "สงครามอัตราแลกเปลี่ยน" ทั้งนี้ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรานิวยอร์ก ณ วันที่ 25 ตุลาคม ค่าเงินดอลลาร์ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญหลายสกุล นักวิเคราะห์เห็นว่า ผลการประชุมครั้งนี้ มีความหมายเชิงบวกในการหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามการค้า แต่ปัญหาที่ผู้คนสนใจก็คือ ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของ "สงครามอัตราแลกเปลี่ยน" ผ่านไปแล้วหรือยัง

สรุปโดยรวม การประชุมดังกล่าวมีเนื้อหาสำคัญสามประการ เริ่มแรก ประเทศพัฒนาควรระมัดระวังไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเกิดความผันผวนไร้ระบบมากเกินไป เพื่อช่วยประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในการรับมือกับปัญหาการหลั่งไหลเข้ามาของเงินร้อน (Hot Money) สำหรับเรื่องนี้ ก็เป็นมติที่พุ่งเป้าโดยตรงไปที่สหรัฐอเมริกา เพราะสหรัฐฯ ได้พิมพ์เงินดอลล่าร์จำนวนมหาศาล ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนลงเรื่อย ๆ จนเกิดแรงกดดันแบบฟองสบู่ต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ นายเรนเนอร์ บรุเดอร์เล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐศาสตร์และเทคโนโลยีของเยอรมนีกล่าวในที่ประชุมว่า นโยบายเงินตราที่ผ่อนปรนมากเกินควรของสหรัฐฯ อันที่จริงเป็นการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราทางอ้อม

ประการที่สอง ประเทศต่างๆ ควรกำหนดนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามกลไกตลาดและพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งการนี้คงทำให้ประเทศจีนเผชิญกับแรงกดดันของการปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามากขึ้น การประชุมครั้งนี้ ยังทำให้ผู้คนรู้สึกว่า ในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่กรุงโซลในเดือนหน้า ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจะเป็นประเด็นที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก

ประการที่สาม ที่ประชุมไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อสภาพการณ์ที่บางประเทศได้ออกมาตรการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อเร็วๆ นี้ ในบรรดาประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ นอกจากญี่ปุ่นได้แทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นครั้งแรกในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาแล้ว เกาหลีใต้และบราซิล เป็นอาทิ ก็กำลังศึกษาหรือได้ออกมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมทรัพย์สิน

ความเห็นเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเจียงจู ทำให้ผู้คนมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่า "สงครามอัตราแลกเปลี่ยน" เป็นสิ่งที่ีหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็มีบางส่วนเกิดความกังวลว่า เนื่องจากที่ประชุมไม่ได้ออกมาตรการที่มีผลบังคับใช้ จึงอาจไม่สามารถปรับเปลี่ยนแนวโน้มพัฒนาการของข้อพิพาทด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราได้

เราควรมองเห็นถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดข้อพิพาทด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งก็คือ ความไม่สมดุลของการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ความเร็วและสมรรถนะในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศกำลังพัฒนากับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ระหว่างประเทศพัฒนาด้วยกัน และระหว่างประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่กันเอง ล้วนมีความแตกต่าง ดังนั้น ย่อมจะส่งผลให้ประเทศต่างๆ ดำเนินนโยบายมหภาคที่ไม่ตรงกัน กระทั่งตรงกันข้าม

แม้ว่า ในอนาคต สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจะดำเนินไปพร้อมๆ กับข้อพิพาทด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่จะคงความรุนแรงยิ่งขึ้นก็ตาม แต่หากประเทศต่างๆ ยินดีปฏิบัติตามความปณิธานที่ได้บรรลุร่วมกันในที่ประชุมเจียงจู ก็อาจกล่าวได้ว่า "สงครามอัตราแลกเปลี่ยน" ช่วงที่เลวร้ายที่สุด ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

(NL/Lin)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
经济
v ปัญหาการพัฒนายังเป็นประเด็นร้อนในที่ประชุมประธานรัฐสภาโลกครั้งที่ 3 2010-07-20 17:29:53
v การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่นครโตรอนโตจะเป็นการประชุมสุดยอดที่ไม่เผ็ดร้อนนัก 2010-06-24 15:46:32
v ธนาคารโลกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก แต่ไม่พ้นเงามืดจากวิกฤตหนี้สาธารณะ 2010-06-10 19:02:17
v กองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกผลักดันการปฏิรูป เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนา 2010-04-26 17:41:59
v เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงต้องระมัดระวัง 2010-04-23 18:22:48
v เศรษฐกิจโลกเผชิญทั้งการฟื้นตัวและความเสี่ยงพร้อมกัน 2010-04-22 13:12:00
v ผู้นำกลุ่มประเทศบริกพร้อมหน้าอีกครั้ง อภิปายสถานการณ์เศรษฐกิจโลก 2010-04-14 19:00:06
v ธนาคารโลกมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจโลกปีนี้ แต่เตือนระวังฟองสบู่ 2010-01-25 20:01:04
v รายงานของสหประชาชาติระบุ ปีหน้า เศรษฐกิจโลกจะค่อย ๆ ฟื้นตัว 2009-12-03 15:24:59
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040