ปี 2012 มีภาพยนตร์จีน 21 เรื่องทำทรายได้เกิน 100 ล้านหยวน โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง "Lost in Thailand" ได้ดึงดูดผู้ชมกว่า 36 ล้านคน สร้างสถิติภาพยนตร์ทำเงินมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้กว่า 1,200 ล้านหยวน
แต่เบื้องหลังบรรยากาศคึกคักนี้ ตลาดภาพยนตร์จีนยังคงประสบปัญหาแฝงอยู่ำไม่น้อย
เมื่อต้นปี 2012 จีนกับสหรัฐอเมริกาลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยปัญหาเกี่ยวกับภาพยนตร์ โดยรัฐบาลจีนเห็นด้วยจะเพิ่มโควต้านำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศจากเดิม 20 เรื่องต่อปีเป็น 34 เรื่อง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นภาพยนตร์ 3D หรือ IMAX และเพิ่มสัดส่วนการแบ่งรายได้กับฝ่ายต่างประเทศจากเดิม 13% ขึ้นเป็น 25% เมื่อเผชิญหน้ากับการท้าทายจากภาพยนตร์ต่างประเทศตั้ง 34 เรื่อง ภาพยนตร์เรื่อง "Lost in Thailand" ที่จีนผลิตเองก็ยังสร้างสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุด แต่กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ปี 2012 ภาพยนตร์จีนทำรายได้น้อยกว่าภาพยนตร์ำนำเข้าเป็นครั้งแรก
หากมองการณ์ไกลแล้ว การหลั่งไหลเข้าตลาดจีนของภาพยนตร์ต่างประเทศ ยิ่งบีบให้ภาพยนตร์จีนต้องเร่งพัฒนาตนเอง เพื่อยกระดับศักยภาพให้สูงขึ้นระหว่างการแข่งขันกับมือวางอันดับต้นๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับตลาดภาพยนตร์จีน
ปี 2012 กลุ่มบริษัทวั่นต๋าของจีนลงทุน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อบริษัทโรงภาพยนตร์ AMC ซึ่งเป็นบริษัทโรงภาพยนตร์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก นับเป็นการควบรวมบริษัทต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของวงการกิจการวัฒนธรรมของจีน ซึ่งถูกนายหวาง เจี้ยนหลิน ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทวั่นต๋าเรียกว่าเป็น "การควบรวมกิจการที่สะเทือนโลก" ต่อมา บริษัทเสี่ยวหม่าเปินถึงประกาศร่วมมือกับกลุ่มบริษัท Reliance ของอินเดีย ซื้อฝ่ายดิจิตอลของบริษัท Digital Domain ของฮอลลีวูด ด้วยราคา 30.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้มีความหมายสำคัญมากต่อการส่งเสริมให้ภาพยนตร์จีนก้าวสู่ตลาดสากล