สวัสดีปีใหม่ พุทธศักราช 2556 คริสต์ศักราช 2014 กับแฟนเน็ตซีอาร์ไอทุกท่านค่ะ แม้ปีใหม่จะล่วงมาวันนี้เป็นวันที่ 6 แล้ว แต่ก็ถือว่าเราพบกันเป็นครั้งแรกในศักราชใหม่นี้ ปีใหม่เป็นปีแห่งความมุ่งหวังใหม่ ๆ ไม่ว่าปีที่ผ่านไปเราจะสุขจะทุกข์ จะสำเร็จหรือล้มเลว มันก็ผ่านไปแล้ว พอถึงปีใหม่ความวาดหวังใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้น พอมีความหวัง ชีวิตก็มีพลังขับเคลื่อนให้เราก้าวไปข้างหน้า พร้อมที่จะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยสติและปัญญา แม้บางเหตุที่ประสบในปีที่แล้วมันหนักหนาสาหัสจนทำให้ยังก้าวต่อไม่ไหว การหยุดอยู่กับที่ หรือแม้การถอยสักก้าวสองก้าว เพื่อให้เราเข้มแข็งก่อนที่จะก้าวย่างอย่างมั่นคงต่อไป ก็น่าจะทำให้เกิดความสุข ความสมหวังได้ในที่สุดเช่นกัน เพราะงั้น จึงต้องขอบคุณปีใหม่ โทษฐานที่ทำให้เรามีความหวัง มีความสุข มีกำลังใจ
คุณง็อก เพื่อนชาวเวียดนามทำงานที่ภาคภาษาเวียดนาม สถานีวิทยุซีอาร์ไอ เธอเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัดกับการปฏิบัติภาวนาทุกเช้าค่ำ วันขึ้นปีใหม่เธอไปไหว้พระที่วัดหลิงกวง วัดนี้มีพระบรมธาตุเจดีย์ที่สวยงามโดดเด่นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระทัณตธาตุพระพุทธเจ้า เธอเล่าว่า คนไปวัดกันเยอะมาก ต้องเข้าคิวรอไหว้พระนานทีเดียว แต่ก็มีความสุขได้ไหว้พระขอพรช่วงปีใหม่ แม้จะต้องเดินเท้าเข้าไปไกลกว่าปกติเพราะรถติดยาว พอเข้าไปในวัดผู้คนเบียดเสียดกัน แต่ก็มีความสุข ดิฉันบอกเธอว่านึกภาพออกเพราะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในช่วงเทศกาลสำคัญยิ่งปีใหม่จีนหรือตรุษจีนนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ดิฉันกับกลุ่มเพื่อนล้วนมีประสบการณ์กันมาแล้ว ปีนี้เราจึงเลือกที่จะไปไหว้พระขอพรที่วัดหลิงกวงในวันเสาร์ที่ 4 มกราคม เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า เชื่อเถอะ วันที่ 4 ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ คนจีนส่วนใหญ่ไม่ชอบเลข 4 เพราะฉะนั้นเชื่อได้เลยว่า วันนั้นที่วัดจะมีคนน้อย ดิฉันยังไม่ปักใจเสียเลยทีเดียว ต้องดูด้วยตา
เช้าวันเสาร์ที่ 4 มกราคม เรานัดกันที่ตลาดดอกไม้ยวี่ฉวนฮว่าเหนี่ยวซื่อฉ่าง พ่อค้าแม่ค้าบอกว่าช่วงนี้ดอกไม้แพง เพราะแหล่งปลูกอย่างเช่นที่คุนหมิงมีหิมะตก ทำลายผลผลิตไปไม่น้อย กุหลาบดอกละ 5 หยวน แพงขึ้นกว่าเท่าตัว ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข คนใช้ดอกไม้กันมาก นับจากนี้ไปจนถึงตรุษจีน ราคาจะยังไม่ลง เราจัดแจกันดอกไม้ 3 แจกัน เพื่อคนหนึ่งเลือกลิลลี่แทบจะเป็นลิลลี่ล้วนหลากสีทั้งแดง เหลือง ขาว ชมพู เธอบอกว่าชอบทั้งดอกที่สวยและกลิ่นที่หอม ขณะที่อีกคนเลือกดอกไม้หลายชนิดหลากสี เธอว่าชีวิตจะได้มีสีสันมากยิ่งขึ้น
ถนนช่วงเลี้ยวเข้าวัดโล่งตลอด เป็นดังคาดคนไม่มาก เข้าข่ายบางตาเสียด้วยซ้ำ เมื่อผ่านประตูตรวจตั๋วเข้าไปแล้ว ได้เห็นโคมสีแดงตกแต่งสถานที่ผูกไว้ตามต้นไม้ ทางเข้าสวยสดงดงาม น้ำในสระกลายเป็นน้ำแข็ง ดอกบัวเหลือแต่รากอยู่ใต้น้ำแข็ง เราค่อย ๆ เดินไปตามทางเดินที่ลาดชัน ขึ้นไปถึงวัดหลิงกวง ก็นำดอกไม้ไปวางไว้ตรงสถานที่ที่เขาจัดไว้ให้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของวัดคอยชี้จุดและอำนวยความสะดวก ที่วัดหลิงกวงมีการประดิษฐานพระพุทธรูปที่อัญเชิญไปจากหลายประเทศ จากไทยมี 2 องค์ องค์แรกดิฉันเรียกหลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่ที่วิหารด้านหน้าสุด กับอีกองค์ ประดิษฐานอยู่ที่ด้านหน้าของพระมหาธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปจากพม่า ศรีลังกา เวียดนาม ประดิษฐานอยู่ในและนอกวิหารรองโดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์
หลังวางแจกันดอกไม้ เราหันมาจุดธูปเทียนถวายสักการะขอพร ต่อด้วยการเดินจงกรม เนื่องจากอากาศหนาวจัดก็เลยตกลงกันว่าแค่ 3 รอบ ก่อนที่จะไปต่อยังวัดและศาลเทพเจ้ามังกรซึ่งต้องขึ้นเขาไปอีกไกลพอควร ตอนนั้น เที่ยงกว่า ๆ ได้เวลาหิวก็ลุ้นกันว่า ร้านไข่ต้มชาที่อยู่ระหว่างทางขึ้นเขาจะยังอยู่ไหม เพราะหายไป 1 ปีที่นี่พัฒนาเร็วมาก เดิมเป็นทางขึ้นเขาที่ต้องปีนขึ้นไป ตอนนี้ถนนสร้างเสร็จแต่ไม่อนุญาตให้รถทั่วไปใช้ ขณะที่ทางเดินขึ้นเขาก็ทำเป็นบันไดแต่สูงชัน ต้องหยุดกันหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางศาลเทพเจ้ามังกร ดังนั้น การได้เติมน้ำมันด้วยการกินไข่ต้มชา ดื่มน้ำ และพักเอาแรงสักหน่อย น่าจะเป็นการชาร์จแบตร่างกายที่ดี เราสั่งไข่ต้มชาคนละ 3 ฟอง ได้ไข่ต้มร้อน ๆ กับน้ำดื่มในขวดที่เขาแช่กับน้ำร้อน จนเป็นน้ำอุ่น ๆ ไข่สามฟองทีแรกทำท่าจะไม่หมด จะถือขึ้นเขาคงไม่ไหว พยายามกินให้หมดดีกว่า
เราขึ้นถึงศาลเทพเจ้ามังกร เห็นคนอยู่ที่นั่นเกือบ 20 คน ก็จัดการวางแจกันดอกไม้ แล้วหันไปซื้อธูปเทียน เพราะที่นี่จะไม่ยอมให้เจุดธูปเทียนที่นำไปเอง เทียนขนาดเดียวกันกับที่วัดหลิงกวงแต่ราคาแพงกว่าเท่าตัว เทียนรูปดอกบัวขนาดเท่าฝ่ามือ แท่งละ 33 หยวน คู่ละ 66 หยวน เราตกลงซื้อและจุดรวมกันแค่ 1แท่ง ส่วนธูปขนาดเล็กสุดห่อหนึ่งมี 3 ดอก ราคา 10 หยวน แพงทีเดียว ( นึกถึงที่วัดลามะ สัปดาห์ที่แล้วไปวัดลามะ ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนกฎใหม่ห้ามนำธูปไปเอง ใครที่นำธูปไปเจ้าหน้าที่จะขอให้วางฝากไว้ที่ด้านหน้าประตูทางเข้า พอเข้าไปด้านใน เขาจะมีจุดแจกธูปให้เรากำหนึ่งมี 61 ดอก แจกฟรี หรือบางทีอาจรวมอยู่กับบัตรค่าเข้าชม แต่เพื่อนก็บอกว่าบัตรก็ยัง 25 หยวนเท่าเดิม เอาเป็นว่าไปวัดลามะคราวหน้าไม่ต้องพกธูปไปเองแล้ว ) เราพยายามมองหาคณะเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศาลคณะเดิม 3 – 4 คนซึ่งคุ้นกัน พบเพียงคนเดียว เขาบอกว่า ส่วนใหญ่ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ในจุดที่ 3 ระหว่างทางขึ้นก่อนถึงร้านไข่ต้มชา แรกทีเดียวเพื่อนคนจีน ตั้งใจจะฝากให้เขาช่วยซื้อเทียนใหญ่มาจุดถวายให้ทั้งปีแต่ดูแล้วเจ้าหน้าที่ชุดนี้ เขาไม่ค่อยเต็มใจ ขากลับเราจึงแวะหาคณะเจ้าหน้าที่ที่เราคุ้นเคย ปรากฏว่าพอเจอกันเท่านั้น ต่างเข้ามาสวมกอด ดีใจเหมือนเจอเพื่อนเจอญาติสนิท เธอบอกว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่จะต้องมีการสับเปลี่ยนจุดปฏิบัติงานกันเป็นช่วง ๆ พร้อมเสนอให้เราจุดเทียนถวายทั้งปี โดยเขียนชื่อนามสกุลไว้ที่เทียนแล้วเธอจะเป็นผู้ดูแลให้ สังเกตว่ามีคนมาจุดเทียนถวายทั้งปีจำนวนไม่น้อย คนจีนกลับมาเข้าวัดและทำบุญสุนทานกันเหมือนเดิมแล้ว สังเกตุได้จากสิ่งที่นำไปสักการะบูชาทั้งธูปเทียน ดอกไม้ ผลไม้ เครื่องดื่ม ขนม น้ำมันพืชและธัญพืชชนิดต่าง ๆ โลกเจริญเพียงใดเรายิ่งต้องมีหลักใจที่มั่นคง พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือหลักใจที่เมื่อน้อมนำมาปฏิบัติแล้วจะทำให้เราถึงหลักชัยในชีวิตแม้จะพบเจอกับวิกฤติเพียงใด เชื่อเถอะเราจะผ่านไปได้
สวัสดีปีใหม่ ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะคะ