"พอรู้ว่าพี่จะมาปักกิ่ง คนรอบข้างตั้งแต่ในบ้านยันเพื่อน ๆ ต่างเป็นห่วง ว่าพี่จะหาอาหารทานยาก เพราะพี่เป็นมุสลิม พี่เองตอนแรกก็หวั่น ๆ แต่พอมาถึงแล้ว โอ้ย!อยู่ได้สบาย ในปักกิ่งมีร้านอาหารมุสลิมเยอะมาก กระจายอยู่ทั่วไป ยิ่งเป็นย่านหนิวเจีย มีแต่พี่น้องชาวจีนมุสลิมทั้งนั้น พี่เลยโทรบอกที่บ้านและเพื่อน ๆ ว่า พี่อยู่ที่นี่ได้สบาย ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินมีทุกอย่าง ยิ่งผัก ผลไม้ มีหลากหลาย สดใหม่ รสดี ราคาไม่แพง"
คำบอกเล่าของพี่นาหรือพี่อุษณา ปรียากร ผู้อำนวยการส่วนแผนงานและพัฒนางานประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีกำหนดมาปฏิบัติงานในโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านวิทยุกระจายเสียงระหว่างสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุซีอาร์ไอ ที่สถานีวิทยุซีอาร์ไอ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1- 25 กันยายน 2555 พี่นาไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับคุณน้องหรือคุณวิไลลักษณ์ รุ่งสมัย นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ คุณน้องเล่าวว่า
"กรมประชาสัมพันธ์กับสถานีวิทยุซีอาร์ไอได้ทำความตกลงร่วมมือกัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 สาระในความตกลงดังกล่าวคือทั้งสองฝ่ายจะมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านบุคลากร การกระจายเสียง ศิลปวัฒนธรรม บันเทิง และอื่น ๆ เป็นความร่วมมือที่ครอบคลุมในวงกว้างมาก"
คุณน้องเล่าว่า ช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสเดินทางมาจีนหลายครั้ง ทั้งที่กรุงปักกิ่งและเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี แต่ละครั้งที่มาก็รู้สึกว่า จีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
"เรื่องอาหารการกิน สบายหายห่วง มีหลากหลายให้เลือก เดินตลาดเห็นเขาทำหมูย่าง ซาลาเปา น่าทานมาก สักวันต้องซื้อมาทาน ผลไม้นี่ซื้อมาแล้วอร่อยและถูกมากทั้งท้อ องุ่น สาลี่ แอปเปิ้ล ผักในตลาดเยอะมาก ที่พักโรงแรมซีอาร์ไอ มีเดีย เซ็นเตอร์ ก็ดีมาก ห้องกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสะอาดมาก จะมีที่ห่วงอยู่หน่อยก็คืออากาศ ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง อากาศก็เริ่มเย็นลง แม้จะเตรียมเสื้อผ้ามาบ้าง แต่พอวันแรกรู้สึกเย็นแฮะ ก็เลยไปซื้อเสื้อกันหนาวมาเตรียมไว้ให้อุ่นใจอีกตัว"
พี่นารีบเสริมว่า "ใช่ ๆ อากาศเย็น เพราะวันที่เรามาถึงฝนตก วันรุ่งขึ้นก็ฝนตกอีก"
สามสาวหาวพร้อมกันโดยไม่ได้นัด อาจเป็นเพราะหนังท้องตึงจากอาหารมื้อเที่ยงที่ภาคภาษาไทยจัดเลี้ยงต้อนรับให้เพิ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงบวกกับสภาพฟ้าครึ้ม อากาศหนาวหน่อย ๆ หนังตาเลยหย่อน พลันก็สบตา อา..เครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่คุ้นคอ ชาหรือกาแฟน่าจะช่วยเราได้ คุณน้องเสนอว่า เราหาร้านกาแฟจีนแล้วเข้าไปนั่งกันดีกว่า ดูซิว่าร้านกาแฟที่เป็นแบรนด์จีนแท้ ๆ เนี่ย บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ไม่ไกลจากห้างวั่นต๋าที่เราเดินอยู่ มีร้านกาแฟชื่อวี.คาเฟ่
เราดิ่งเข้าไปที่นั่น บรรยากาศน่านั่งมาก ร้านกาแฟที่นี่เก้าอี้จะเป็นโซฟาที่มีพนักสูงกว่าหัว เบาะและพนักนุ่ม นั่งสบาย มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพองาม แต่ละโต๊ะจะมีโคมไฟหรี่ไฟได้ตามระดับที่ต้องการ แสงไฟในร้านไม่สว่างมากนัก ในชั้นล่าง หากต้องการความเป็นส่วนตัว เพียงปิดม่านโปร่งสีม่วงที่ฉลุไว้อย่างสวยงาม เราก็จะได้ความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ก็ต้องที่ชั้นสอง เขาจัดไว้เป็นห้อง ๆ หารือธุรกิจพร้อมจิบชากาแฟไปพลาง หากต้องการอาหารว่างหรือแม้แต่ประเภทอาหารจานเดียวทางร้านก็มีบริการให้ ร้านนี้มีทั้งชาและกาแฟจากทั่วทุกมุมโลก สนนราคาตั้งแต่แก้วละ 35 – 120 หยวน ฝีมือการชงดีทีเดียว พี่นาเล่าว่า
"พี่ภารดีโทรมาหาพี่บอกจะไปปักกิ่งให้เตรียมกาแฟไปด้วย เพราะกาแฟที่บ้านเขาจืดกว่าบ้านเรา พี่เลยเตรียมมาด้วย" ขณะที่คุณน้องซึ่งเบื่อความเข้มของกาแฟเวียดนาม อยากลองกาแฟจีน ก็ยี่ห้อเนสกาแฟเหมือนบ้านเรา เลยซื้อทรีอินวันมา 1 กล่อง แก้วแรกที่ลอง"เออ จืดจริง ๆ ต้องเติมกาแฟเปล่าเข้าไปอีกซอง จึงค่อยยังชั่ว"
แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่รสชาติ ความเข้มข้นจะต่างกัน ตอนนี้คนจีนจำนวนไม่น้อยเวลามาเที่ยวไทย จะซื้อกาแฟทรีอินวัน ซื้อมาม่า ซื้อของขบเคี้ยวจากไทยไปฝากเพื่อน ๆ ทำไมบ้านเขาไม่มีหรือ?
คำตอบคือมี และมีมากมายหลากหลายยี่ห้อด้วย แต่รสชาติไม่เหมือนกัน
พาพี่นากับคุณน้องท่องตลาดและซุเปอร์มาเก็ตจีน แหล่งท้อนวิถีชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่พี่นาและคุณน้องประจักษ์คือคนจีนรักคนไทย พอรู้ว่าเป็นคนไทยจะโอภาปราศัยด้วยดี มีน้องคนหนึ่งเป็นพนักงานร้านรองเท้ายี่ห้อครอส เธอห้อยพระปิดตา พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย เธอทักทายด้วยคำว่า สวัสดีค่ะเสียงใส บอกว่าเพิ่งกลับจากไทย ไปเที่ยวพัทยามาสนุกมาก อยากไปเที่ยวอีก ชอบอาหารไทยทุกอย่าง
พี่นากับคุณน้อง มั่นใจว่า 25 วันในปักกิ่งจะยิ่งมีสีสันและได้ข้อมูลมหาศาลเพื่อการนำไปวางแผนประชาสัมพันธ์รวมทั้งการทำรายการเผยแพร่ให้คนไทยรู้จักจีนในหลาย ๆ แง่มุมมากขึ้น อย่างที่ดิฉันว่า อยู่จีนตอนนี้น่ะสบาย ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด