เดือนที่แล้ว ดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับตำรวจจีนและตำรวจไทย ที่มาอบรมภาษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง พันตำรวจโทหญิง หวาง ฟาง สารวัตรกองตรวจคนเข้าเมืองเสิ่นเจิ้น มาอบรมภาษาไทย สารวัตรฯเล่าให้ฟังว่าตอนปริญญาตรีเรียนเอกภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง พอไปทำงานที่กองตรวจคนเข้าเมือง ไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้ภาษาไทยเลย แต่เมื่อมาอบรมแล้วคงได้ใช้มากขึ้น สิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยทำให้ลืมไปบ้าง ตอนนี้ก็ค่อย ๆ ฟื้น เพื่อนก็ช่วย อาจารย์ก็ช่วยทำให้ฟื้นภาษาไทยได้เร็ว
สารวัตรฯมาอบรมภาษาไทยกับเพื่อนตำรวจอีก ๘ นาย เป็นตำรวจจากมณฑลกวางตุ้ง ยูนนาน และเขตปกครองตนเองกวางสี ตำรวจทั้ง ๙ นายที่มาเรียนทุกคนมีพื้นฐานภาษาไทย เรียนภาษาไทยมาจากมหาวิทยาลัย ในการมาอบรมคราวนี้ จึงเรียนภาษาไทยกับครูไทยและครูจีนที่เชี่ยวชาญภาษาไทยโดยตรง แม้ปกติเวลาปฏิบัติหน้าที่ที่กองตรวจคนเข้าเมืองเสิ่นเจิ้นไม่ค่อยได้พูดเท่าไหร่เนื่องจากมีแบบฟอร์มการตรวจเอกสารที่ชัดเจน แต่ถ้าหากต้องพูดกับชาวต่างชาติที่ใช้ส่วนใหญ่คือภาษาอังกฤษ การทำงานตรวจคนเข้าเมือง ถ้ารู้ภาษาจะยิ่งทำให้เราทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เคยใช้ภาษาไทยทักทายกับคนไทยเวลาทำงาน คนไทยก็บอกเก่งมาพูดภาษาของเขาได้ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเอง การพูดภาษาแม่ของเขาได้จะดีกว่าการใช้ภาษาอื่น เพราะมันทำให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ตรงประเด็น ช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้รวดเร็วขึ้น
รัฐบาลจีนตื่นตัวส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศทั่วโลกหลายสิบภาษาในมหาวิทยาลัยมาเป็นเวลาหลายสิบปี สื่อของรัฐบาลจีนอย่างซีอาร์ไอก็ออกอากาศด้วยภาษาต่างประเทศถึง ๖๕ ภาษา เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลจีนเอาจริงกับการส่งเสริมให้คนของเขาเข้าใจคนทั่วโลกอย่างถ่องแท้โดยผ่านภาษาแม่ของประเทศนั้น ๆ ทั้งภาษากลุ่มใหญ่และภาษากลุ่มน้อย ต่างมีคลังบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมทำงานได้ทันที
ดิฉันถามสารวัตรหวางฟางว่าพูดถึงไทยคิดถึงอะไรบ้าง สารวัตรตอบว่า คิดถึงอาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยว คนไทย ศาสนาพุทธ พร้อมแนะนำให้คนไทยที่มาเที่ยวเสิ่นเจิ้น ไปเที่ยวที่วัดเซียงหู วัดพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียง ตอนนี้คนไทยที่ไปเที่ยวฮ่องกงมักเข้ามาเสิ่นเจิ้นแล้วไปวัดเซียงหู
สารวัตรหวาง ฟางทิ้งท้ายว่า คงจะได้ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างจีนไทย โดยใช้ภาษาไทยเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกันมากขึ้น นาย
ตำรวจไทยที่ดิฉันได้พูดคุยด้วยคือพันตำรวจโทสัณห์กมล เหลืองกุลวัฒน์ สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สารวัตรฯเล่าให้ฟังว่า การมาอบรมภาษาจีนเป็นเวลา ๑ ปีนี้เป็นความร่วมมือของสองประเทศ ไทยและจีนเพื่อเตรียมพร้อมการเปิดอาเซียน ไม่เคยมีความรู้ภาษาจีนมาก่อนเลย แต่ปีนี้เป็นโครงการพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวน ตำแหน่งสารวัตรกองปราบ รับผิดชอบพื้นที่ทั่วประเทศไทย ช่วงหลัง ๆ มามีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไทยและจีนจำนวนมาก นโยบายของระดับผู้ใหญ่ในไทย ต้องการให้ผู้ปฏิบัติบางส่วนมีความรู้เรื่องภาษาจีนเพื่อสื่อสารเวลามีเหตุเกิดขึ้น
จากที่ไม่รู้ภาษาจีนมาก่อนเลย เวลามาเรียนนี่ยากมากต้องใช้ความพยายามฟังสำเนียงแล้วก็ค่อย ๆจำ เวลาเรียนที่นี่เนื่องจากเป็นโปรแกรมพิเศษระหว่างตำรวจประเทศที่มีความสัมพันธ์กับประเทศจีน มีตำรวจจาก ๘ ประเทศ ๆ ละ ๒ นายมาเรียน สอนเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว ฟังอังกฤษเพื่อเรียนรู้ภาษาจีน ตำรวจที่มาจาก ๘ ประเทศนี่ บางนายเรียนภาษาจีนมาแล้ว ๑ ปี บางนายเรียนมาแล้ว ๓ เดือน
สารวัตรฯเล่าว่า วันแรกที่มาเรียนงงมาก เดินไปไหนเห็นแต่อักษรจีนหมดเลย เวลาพูดก็พูดจีนหมดเลย ภาษาอังกฤษจะมีเฉพาะที่สนามบิน ผ่านมาสองเดือนรู้สึกดีขึ้น เราเริ่มใช้ภาษาจีนสื่อสารกัน มาเรียน ๑ ปี แบ่งเป็น ๒ เทอม เทอมแรกเป็นเรื่องพื้นฐานทางภาษาจีน ส่วนเทอมที่สองก็เป็นวิชาเฉพาะทางด้านตำรวจ ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่และพัฒนาดีมาก คนไทยน่าจะเรียนรู้ภาษาจีนด้วยเหมือนกัน เพื่อรองรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การติดต่อระหว่างประเทศมันรวดเร็ว มีเทคโนโลยีสมัยใหม่มา ภาษาจงยิ่งมีความจำเป็น ถ้าเรารู้ภาษาของประเทศนั้น ๆ จะทำให้การเชื่อมความสัมพันธ์ง่ายขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เหมือนเรามาประเทศจีน เราเจอคนจีนที่พูดภาษาไทยเราจะแฮปปี้
สารวัตรฯเปรียบเทียบการพัฒนาของจีนว่า เมื่อ ๔ ปีก่อนเคยมาเที่ยว เสิ่นเจิ้น ปักกิ่ง เหอหนาน พอปัจจุบันกลับมาใหม่ประเทศจีนมีการพัฒนาก้าวหน้าสูง สูงกว่าประเทศไทย โดยเฉพาะปักกิ่งมีการคมนาคม การสื่อสารที่ก้าวหน้ามาก มีความเจริญอย่างเห็นได้ชัด อย่างการคมนาคมในปักกิ่งนี่มีรถไฟใต้ดินสิบกว่าสาย รถเมล์ก็ดี ที่สำคัญราคาไม่แพง
เมื่อถามว่าสัมผัสกับคนจีนมาสองเดือนเศษ คิดว่าคนจีนมีความรู้สึกอย่างไรกับคนไทย สารวัตรตอบทันทีว่า คนจีนต้อนรับคนไทย เขายิ้มแย้มแจ่มใส จะรู้จักประเทศไทยว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม จะรู้จักอาหารไทยเขาบอกว่าเป็นรสชาติที่คนจีนนิยม ชอบทาน นิสัยคนไทยที่ค่อนข้าง ร่าเริง แจ่มใส ก็เป็นเสน่ห์
พอถามถึงอาหารจีนที่ชอบ คำตอบที่ได้คือซุปกับเป็ดปักกิ่ง ตอนเรียนอาจารย์สอนทำเกี๊ยวจีน เพราะฉะนั้น ตอนนี้สารวัตรฯจึงทำเกี๊ยวจีนได้แล้ว การเรียนภาษาจีนผ่านวัฒนธรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ละคร ภาพยนตร์ กีฬา กิจกรรมล้วนเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการเรียนรู้และง่ายแก่การจดจำ รู้ทั้งภาษา รู้ทั้งวัฒนธรรม ทำให้เราเข้าใจกันง่ายขึ้น
สารวัตรสัณห์กมลทิ้งท้ายว่า ตำรวจไทยยินดีที่จะประสานงานคอยบริการให้แก่คนจีน คนไทย เราพร้อมประสานงานกัน คอยเชื่อมให้สองประเทศมีมิตรไมตรีดียิ่งขึ้น
กระทรวงความมั่นคงภายในของจีนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความร่วมมือกัน โดยส่วนหนึ่งของความร่วมมือก็คือการรับนายตำรวจไทยไปเรียนภาษาจีนเป็นเวลา๑ ปี ๆ ละ ๒ นาย ฝ่ายจีนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ความร่วมมือดังกล่าวปีนี้เป็นที่ ๗ ในระหว่างการศึกษาทุก ๒ เดือน จะมีการพาไปศึกษาดูงานตำรวจในพื้นที่ต่าง ตำรวจไทยสะท้อนให้ฟังว่าระบบการรักษาความปลอดภัยของจีนดีมาก เมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะเมืองหลวง เมืองขึ้นตรง และเมืองเอก มีความเจริญมาก ๆ การทำงานเป็นระบบ มีเทคโนโลยีการสื่อสาร อุปกรณ์ที่ทันมัยมาก ๆ เราจะไม่ค่อยเห็นตำรวจมายืนตามริมถนนกันสักเท่าไหร่ เขาทำงานในอาคารหรือใช้ยานพาหนะลาดตระเวน ใช้เครื่องมือสื่อสารที่ทันมัยมาช่วย เป็นระบบงานที่เรียกได้ว่าเป็นคนละชั้นกับที่บ้านเรา.