รศ. ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุซีอาร์ไอ โดยเห็นว่ารอบปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกการบริหารราชการแผ่นดินผู้นำรุ่นที่ 5 ของจีน เป็นการวางแนวทางปฏิรูปและปรับโครงสร้างประเทศ ซึ่ง นายกฯหลี่เค่อเฉียงย้ำเรื่อง "การปฏิรูป"และให้ความสำคัญมาก โดยในการแถลงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ได้กล่าวถึงคำนี้ถึง 77 ครั้ง
แต่การวางไกด์ไลน์หรือแนวทางกำหนดนโยบายแล้ว ก็จำเป็นต้องมีนิติกรรมหรือมีกฎหมายรองรับ หลังจากนั้นเป็นปฏิบัติการและลงมือทำห้เกิดผลจริง ซึ่งจะเป็นระยะเวลาต่อจากนี้ไป
รศ. ดร. สมภพ เห็นว่าปีที่ผ่านมา แผนงานของรัฐบาลจีนที่ประกาศไว้ในวันรับตำแหน่งนั้น ทำได้ตามเป้าหมายหลายเรื่อง อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 7.5 ก็สามารถทำได้ถึง 7.7 ยอดการส่งออกนำเข้าได้เกินกว่าร้อยละ 7 ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 8 แต่กระนั้นการพัฒนาของจีนก็ยังมีปัญหาอีกอุปสรรคอีกหลายเรื่อง ได้แก่
1. กำลังผลิตล้นเกินความต้องการ ในโรงงานและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ลงทุนเกินตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนจะต้องเร่งหาทางแก้ไขให้ได้ภายในปีนี้
2. หนี้สาธารณะของรัฐบาลท้องถิ่น เป็นเรื่องถูกจับตามองอย่างมากจากนานาชาติ เพราะสัดส่วนหนี้สาธารณะของจีนรวม มีประมาณร้อยละ 53 ของจีดีพี ในจำนวนนี้ร้อยละ 33 เป็นหนี้สาธารณะของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งถือว่ามีจำนวนค่อนไปทางสูงมาก เพราะโดยเฉลี่ยเพดานหนี้สาธารณะไม่ควรเกินร้อยละ 60 ของจีดีพีประเทศ สถานการณ์ของจีนขณะนี้จึงเป็นช่วงของการเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม การลดหนี้สาธารณะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่าย เพราะรัฐบาลใหม่
ของจีนเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้แค่เพียงปีเดียว สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเหมือนๆ กันในทุกรัฐบาล ต้องยอมรับว่าการทำให้รัฐบาลท้องถิ่นซึ่งปกติมีอำนาจมาก ยอมปฏิบัติตามนโยบายส่วนกลางและยอมให้ความร่วมมืออย่างดีนั้นต้องใช้เวลา
ดร.สมภพคาดว่า จะใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งปี รวมสองปี จึงจะสามารถทำให้การบริหารงานเข้ารูปเข้ารอยได้จนเกิดการขับเคลื่อนได้อย่างแท้จริง
3. ปัญหาระบบการเงินของจีน การเงินนอกระบบ หรือ "ธนาคารเงา" (shadow banking) เป็นเรื่องใหญ่ เพราะธนาคารทั้งหมดรัฐบาลเป็นผู้บริหารและควบคุม
จึงเป็นเหตุให้เกิดธุรกรรมทางการเงินนอกระบบจำนวนมาก หากไม่สอดส่องให้ดีก็จะเป็นปัญหาได้
ธนาคารเงาคือระบบการเงินนอกรูปแบบที่เชื่อมโยงไปนอกประเทศ เช่น
ปล่อยกู้ไปฮ่องกง เงินจากทั่วโลกที่ไปอยู่ฮ่องกง มาโผล่ที่จีน รัฐบาลจีนอาจควบคุมไปไม่ถึง หากดูแค่ตัวเแปรเศรษฐกิจมหภาค อาจมองไม่เห็นปัญหาหรือความผิดปกติส่วนธุรกรรมปล่อยกู้โดยออนไลน์ไฟแนนซ์ ประมาณ 6-7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นมีผู้ทำธุรกรรม 60-70 ล้านราย แต่ไม่มีผลมากเพราะเป็นกลุ่มรายย่อย