อิทธิพลจากการที่ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณหมอฟันในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตัวเองก็คึกครับ อยากที่จะออกไปเปิดหูเปิดตาดูบ้านดูเรือนกับเขามั่ง บังเอิ๊ญบังเอิญ วันจันทร์ที่ผ่านมาหิมะตกทั่วกรุงปักกิ่ง ประกอบกับวันนั้นเป็นวันหยุดของผมด้วย คนที่ไม่เคยได้สัมผัสหิมะเลยก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา สองขาเลยพาร่างบาง ๆ นี้ ไปที่แลนด์มาร์คสำคัญประจำเมืองหลวง ซึ่งร้อยทั้งร้อยไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมากับทัวร์หรือมากันเอง ก็จะต้องไปแชะภาพกันที่นี่ หัวใจผมพองโตมากในตอนนั้น ความคิดผมเป็นแบบนี้เลย "...เพราะนี่เป็นโอกาสอันเหมาะสมอย่างหาที่สุดมิได้แล้วของฉัน เหล่ามวลมหาประชาชนจีนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองเทศกาลแห่งความสุขรับปีใหม่ไปหมดแล้ว การเดินทาง การซื้อบัตร การได้ใช้เวลาซึมซับความสวยงามคงไม่ต้องแย่งกันเท่าไหร่นัก โลกทั้งโลกต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียววววว" ความคิดและความจริงจะเป็นเหมือนกันไหม ลองไปชมภาพกันนะครับ
จากที่ส่อง ๆ ในเสิร์ชเอ็นจิ้นทั้งหลาย ยังไม่ค่อยเห็นมีใครพูดถึงการเดินทางมาเที่ยวยังหอบูชาฟ้ากันสักเท่าไหร่ ผมจะขอพูดถึงการเดินทางไปด้วยตนเองตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ เอ้าาาา ทุกคนหลับตา จินตนาการผังเมืองปักกิ่งกันก่อน ให้คิดว่าผังเมืองนั้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ จุดตรงกลางของสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้เป็นที่ตั้งของจตุรัสเทียนอันเหมิน ถ้าใครเริ่มต้นออกเดินทางจากจุดศูนย์กลางนี้ หอบูชาฟ้าเทียนถานจะอยู่เยื้องไปทางล่างขวาของแผนที่ครับ คุณผู้อ่านอาจจะคิดว่าทำไมดูง่ายจัง ใช่ครับ ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นแผนที่ท่องเที่ยวหรือแผนที่ชีวิต ถ้าเรารู้ว่าจุดเริ่มต้นเราอยู่ตรงไหน ปลายทางเราคืออะไร การเดินทางไปก็เป็นอะไรที่ไม่สาหัสครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้น สำหรับคนที่อ่านภาษาจีนไม่ออก ความจริงแล้วทุก ๆ ที่รอบปักกิ่งก็จะมีป้ายหรือสัญลักษณ์ที่มีภาษาอังกฤษกำกับอยู่นะครับ เพียงแต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลาตามหาเหมือนเล่นอาร์ซีสักหน่อย ใครที่หงุดหงิดง่ายก็แนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันตัวหนึ่ง ชื่อ "Beijing" ครับ
สำหรับแอปพลิเคชันตัวนี้พกติดตัวไว้ ใช้เวลาทำความเข้าใจสัก 5 นาที รับรองว่าต่อจากนี้ไม่มีหลง เราจะเห็นภาพรวมของสถานีรถไฟใต้ดินของกรุงปักกิ่งทั้งหมด รู้ว่าจะต้องเปลี่ยนสายที่สถานีไหน สายนั้นมีสีอะไร ชื่อภาษาจีนและอังกฤษก็มีกำกับไว้อย่างชัดเจน อย่างวันนี้ผมจะไปหอบูชาฟ้าเทียนถาน ก็จะต้องไปขึ้นที่สถานี Tiantandongmen ซึ่งเป็นสถานีที่ตั้งอยู่บนรถไฟฟ้าใต้ดินสายที่ 5 หรือสายสีม่วง เกือบลืมบอกไปครับว่าคร่าว ๆ แล้วจะใช้เวลาเดินทางระหว่างสถานีประมาณ 3 นาที ใครพักใกล้สถานีไหนแล้วปลายทางจะไปไหนก็อย่าลืมคูณ 3 กันเข้าไปก็จะได้เวลาที่ต้องใช้คร่าว ๆ นะครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ควรทราบก่อนเดินทางก็คือ ขณะนี้ทางรัฐบาลจีนได้ปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะแล้ว จากที่เมื่อก่อนจะสามารถขึ้น-ลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีไหนก็ได้ด้วยเงินเพียงแค่ 2 หยวนหรือประมาณ 10 บาท แต่ตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นมาก็คิดตามระยะทางแล้วครับ ส่วนตัวผมว่ายังไงก็ถูกกว่าบ้านเราอยู่ดี เพราะระยะทางไกลสุดที่เคยเดินทางไปก็เสียเพียง 5 หยวน เท่านั้นเอง (สำหรับวิธีการซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินกรุงปักกิ่ง ผมจะรีวิวไว้ให้อย่างละเอียดอีกทีในตอนต่อไปนะครับ)
หลังจากที่โผล่ขึ้นมาจากสถานี Tiantandongmen แล้ว ก็เดินตามกระแสมนุษย์ไปเลยครับ คุณผู้อ่านก็จะพบกับทางเข้าได้โดยไม่ต้องสงสัย ด้านขวามือของทางเข้าก็จะมีจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม สนนราคาค่าเข้าชมสวนสาธารณะเทียนถานอยู่ที่ 5 หยวน และบริเวณหอบูชาฟ้าและสถานที่สำคัญอื่น ๆ อีก 10 หยวน ผมแนะนำให้ซื้อแบบแพคคู่ไปเลยนะครับจะได้ไม่เสียเวลาแบบผม เพราะตอนซื้อบัตรรอบแรกผมก็เข้าใจว่า 5 หยวนนี่จะได้เข้าได้ถึงตัวหอสักการะเลย ความจริงเดินได้แค่บริเวณสวนโดยรอบครับ เขาจะมีกำแพงใหญ่ ๆ กั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง ก็ต้องไปต่อแถวรอซื้ออีกทีหนึ่งเสียดายเวลาชะมัด
เมื่อเข้ามาในสวนสาธารณะแล้ว ทุกอย่างก็ขาวโพลนไปหมด เด็กน้อยปั้นมนุษย์หิมะอย่างสนุกสนาน เหล่าผู้สูงอายุก็จับเข่านั่งคุยกัน บ้างก็เล่นหมากรุกจีน มองดูแล้วสุขใจอย่างบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าผมขอเล่าผ่านภาพความประทับใจต่อจากนี้แล้วกันนะครับ
สำหรับขากลับ ผมแนะนำให้กลับทางเดินกับที่ทางที่เราเข้ามานะครับ จะได้ตามเก็บภาพความประทับใจที่อาจจะตกหล่นไปบ้าง เพราะการออกฝั่งตรงกันข้ามกับที่เรามา เราจะต้องเดินอ้อม "ไกลมาก" กว่าจะถึงสถานีรถไฟใต้ดินอีกครั้ง ซึ่งระหว่างทางก็ไม่มีอะไรให้รู้สึกว่าอยากจะหยิบกล้องขึ้นมาชักภาพสักเท่าไหร่ (จะเหมาะกับพวกลูกทัวร์มากกว่าที่ลงตรงทางเข้า ออกอีกทางที่มีพื้นที่ให้พักรถ)
ใครที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับหอบูชาฟ้าท่ามกลางปุยหิมะขาวก็คงจะได้ความรู้สึกไปอีกอารมณ์หนึ่งนะครับ โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะครับบอกเลย เพราะปักกิ่ง ปีปีนึงจะมีหิมะตสักกี่หนเชียว เพราะฉะนั้นกายพร้อมใจพร้อมไม่พอ ยังต้อง "ดวงเฮง" ด้วยนะจ๊ะ