จะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็ตามแต่ในปักกิ่ง ท่าน ๆ จะต้องใช้รถไฟฟ้าใต้ดินกันนะครับ หากไม่ได้มากับทัวร์ การเคลื่อนตัวด้วยวิธีนี้ง่าย เหมาะสม และถึงพร้อมที่สุด ด้วยราคาที่ไม่ได้แพง (ราคาเริ่มต้นของ MRT,ฺBTS บ้านเราแทบจะเป็นราคาสุดท้ายของที่นี่แล้ว) มีสถานีเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญรอบกรุงปักกิ่ง มีวิธีการซื้อตั๋วค่อนข้างง่าย (ผมได้อธิบายไว้อย่างละเอียดเกี่ยวกับการซื้อตั๋วไว้แล้วในตอนก่อน ๆ) ทีนี้ จะรู้ได้อย่างไรว่าสถานีอะไรอยู่ตรงไหนใช่ไหมครับ แอปพลิเคชั่น BJS ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ครับ แอปนี้จะอัพเดทข้อมูลของเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินรอบกรุงปักกิ่งทุกสายที่มีอยู่เป็นภาษาอังกฤษ ข้อดีของเจ้า BJS นี้ก็คือเราสามารถระบุเส้นทางจากจุดที่เราอยู่ไปยังจุดที่เราอยากจะไปได้ ซึ่งมันก็จะคำนวนหาวิธีการไปด้วยเวลาที่สั้นที่สุดให้กับเราด้วย

3.Beijing Air Quality : Beijing AQI

คุณผู้อ่านเชื่อไหมครับ ว่าทุกวันนี้หากผมจะออกจากบ้านไปไหน นอกจากจะดูนาฬิกาและอากาศแล้ว สิ่งสำคัญมาก ๆ เลยหากจะอยู่ในเมืองนี้ได้อย่างสบายใจก็คือต้องตรวจสอบค่ามลพิษทางอากาศด้วย ดัชนีเหล่านี้เขาอัพเดทกันชั่วโมงต่อชั่วโมงครับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดหมอกควันขึ้นในเมือง จึงไม่สามารถพยากรณ์ได้เหมือนการพยากรณ์อากาศ แอป Beijing AQI ตัวนี้เข้าใจง่ายครับ เขาจะเขียนกำกับไว้เลยว่าเวลานี้ค่าที่มีนั้น อยู่ในระดับอันตรายขนาดไหน เราจะได้เตรียมใจกันไว้ก่อนออกจากที่พักนะครับ

4.VPN / Free Gate

มาเที่ยวทั้งที ถ้าไม่เซลฟี่ลงโซเชียลแคมนี่ ผมเดาว่าชาวไทยบางส่วนอกจะแตกเอานะครับ และจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ที่ทำให้พี่จีนแกบล็อคการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ เสิร์ชเอ็นจิ้นต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บไซต์ชมคลิปวีดีโอ แต่ก็ยังพอจะมีวิธีเข้าถึงสิ่งที่ผมกล่าวมาอยู่บ้างครับ นั่นก็คือการโหลดเจ้า VPN หรือ Free Gate มาใช้

อธิบายสั้น ๆ แล้วกันว่ามันคืออะไร เจ้าสองชื่อนี้มันเป็นโปรแกรมคล้าย ๆ กับเครื่องมือที่วาร์พมือถือเราไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่จีน ทำให้เวลาเราใช้บริการผ่านไวไฟของโรงแรม หรือเครือข่ายโทรคมนาคมต่าง ๆ ของจีน เขาก็จะมองไม่เห็นเรานั่นเองครับ โปรแกรมเหล่านี้จะให้บริการทั้งแบบฟรี ทดลองใช้ 3 วัน 7 วัน และเสียตังค์ครับ ส่วนตัวแล้วถ้าเลือกได้ก็ถ่ายเก็บไว้ แล้วกลับไปโพสต์ใหม่ตอนถึงไทยดีกว่านะครับ