ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมคุณลุงสุชาติ กับคุณป้าศรีกานดา ภูมิบริรักษ์ที่บ้านในกรุงปักกิ่งจะได้หนังสือติดไม่ติดมือกลับมาเสมอ เป็นทั้งหนังสือที่ให้ขาดและให้ยืมมาอ่าน ทั้งสองท่านเป็นทั้งนักเขียนและนักอ่านตัวยง ท่านทั้งสองเชี่ยวชาญภาษาจีนและมีประสบการณ์จากการทำงานและการดำเนินชีวิตอยู่ในจีนกว่า 50 ปีจึงสะสมหนังสือดีๆไว้ในห้องสมุดที่บ้านมากมาย มีเรื่องราวบอกเล่าจากประสบการณ์ที่ฟังแล้วทั้งเพลินและได้ความรู้
หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณลุงให้ขาดมาเป็นหนังสือเล่มจิ๋วแบบสมุดพกปกสีแดง ชื่อคติพจน์เหมา เจ๋อตุง จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ภาษาต่างประเทศ ปักกิ่ง เมื่อปี ค.ศ.1969 หนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบแค่เพียง 2 ภาพ คือภาพท่านประธานเหมา เจ๋อตุง ภาพเดียวกับที่ติดไว้ที่พลับพลาเทียนอันเหมิน กับอีกภาพเป็นลายมือของหลินเปียว ที่เขียนเป็นภาษาจีน
แปลว่า เรียนนิพนธ์ของประธานเหมา เจ๋อตุง เชื่อฟังคำสอนของประธานเหมา เจ่อตุง ปฏิบัติตามคำชี้แนะของประธานเหมา เจ๋อตุง เป็นนักรบที่ดีของประธานเหมา เจ๋อตุง ---หลินเปียว
ขอยกคติพจน์ของประธานเหมาเกี่ยวกับการสร้างประเทศด้วยความขยันและมัธยัสถ์
มาให้ท่านได้อ่านดังนี้
จะต้องให้ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั้งปวงคำนึงอยู่เสมอว่า ประเทศเราเป็นประเทศสังคมนิยมที่ใหญ่โตประเทศหนึ่ง แต่ก็เป็นประเทสยากจนที่ล้าหลังทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เป็นความขัดแย้งที่ใหญ่มาก การที่จะให้ประเทศของเราเข้มแข็งไพบูลย์ขึ้นได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการต่อสู้อย่างทรหดอดทน รวมทั้งต้องปฏิวัติตามเข็มมุ่งในการสร้างประเทศด้วยความขยันและมัธยัสถ์ที่ให้เข้มงวดกวดขันในการประหยัดและคัดค้านการสุรุ่ยสุร่าย
"ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการกับความขัดแย้งในหมู่ประชาชนอย่างถูกต้อง" ( 27 กุมภาพันธ์ 1957)
ควรต้องดำเนินกิจการโรงงาน กิจการร้านค้า กิจการที่เป็นของรัฐและสหกรณ์ทั้งปวงด้วยความขยันและมัธยัสถ์ ควรต้องดำเนินกิจการอืาน ๆ ด้วยความขยันและมัธยัสถ์ ทุกสิ่งทุกอย่างควรต้องปฏิบัติตามหลักการขยันและมัธยัสถ์ทั้งสิ้น นี่แหละคือหลักการประหยัดอันเป็นหลักการพื้นฐานข้อหนึ่งของเศรษฐกิจสังคมนิยม จีนเป็นประเทศที่ใหญ่โตประเทศหนึ่ง แต่ปัจจุบันยังยากจนมาก การที่จะให้ประเทศจีนมั่งคั่งขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาหลายสิบปี และแม้อีกหลายสิบปีให้หลัง ก็ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักการขยันและมัธยัสถ์ แต่ในช่วงเวลาหลายสิบปีข้างหน้า คือระยะปัจจุบันที่ดำเนินโครงการ 5 ปีหลาย ๆครั้งนี้ ยิ่งต้องส่งเสริมความขยันและมัธยัสถ์เป็นพิเศษ ยิ่งต้องสนใจการประหยัดเป็นพิเศษ
หมายเหตุสำหรับเรื่อง"การดำเนินกิจการสหกรณ์ด้วยความขยันและมัธยัสถ์" (ปี 1955)
คติพจน์เกี่ยวกับการพึ่งตนเองและการต่อสู้อย่างทรหดอดทน อาทิ
ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ควรใช้สมองคิดให้ดีทั้งนั้น คำชาวบ้านกล่าวว่า"พอขมวดคิ้วเข้า อุบายก็ออกมา" หมายความว่าการคิดให้มาก ๆ ทำให้เกิดสติปัญญา การที่ขจัดความหลับหูหลับตาอันหนาแน่นภายในพรรคเรานั้น จะต้องส่งเสริมการขบคิด เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ และปลูกฝังความเคยชินในการวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ และปลูกฝังความเคยชินในการวิเคราะห์
"การศึกษาและสถานการณ์"(12 เมษายน 1944)
คติพจน์ประธานเหมา เจ๋อตุงขนาดพกพา หนา 426 หน้านี้อัดแน่นด้วยแง่คิดมุมมอง
ในทุกด้านเป็นของล้ำค่าที่ได้มาแล้วรู้สึกว่าต้องอ่านทุกหน้า หนังสืออะไรก็ไม่รู้จิ๋วแต่แจ๋วอ่ะ.
คราวหน้าจะเล่าถึงหนังสือแปลที่คุณลุงสุชาติแปลจากภาษาจีนชื่อ เกิดจากปัญญาของจีน ว่าด้วยเรื่องสิ่งประดิษฐ์ที่จีนคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่โบราณกาล ติดตามนะคะ