การทุบหลัง
ในเรื่อง "ความฝันในหอแดง" สาวใช้ต้องทุบหลังทุบไหล่ให้กับท่านนายแม่และหวังฮูหยิน ความจริง การทุบหลังเป็นวิธีการบำรุงร่างกายที่ใช้บ่อยในสมัยโบราณ เพราะที่หลังของคนเรา มีเส้นลมปราณหรือภาษาจีนเรียกว่า จิงลู่(经络) สำคัญ 3 สาย เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน เป็นเส้นลมปราณในการรักษา "หยาง" ของร่างกาย จุดสำคัญของการทุบหลังคือ กำมือแบบหลวมๆ ทุบเบาๆ และทุบจากข้างบนลงข้างล่าง ตามแนวกระดูกสันหลัง จากตรงกลางขยับออกไปยังสองข้าง และช่วงเวลาที่เหมาะกับการทุบหลังที่สุดคือ ระหว่าง 15.00 น.- 17.00 น.
ขนมเปลือกฟองเต้าหู้
ใช้ฟองเต้าหู้ทำเป็นเปลือกห่อ ไส้ข้างในประกอบด้วยเห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม และผักเขียว จับจีบให้สวยงามแบบซาละเปาแล้วนำไปนึ่งให้สุก ในสมัยราชวงศ์ชิง ขนมชนิดนี้เป็นอาหารขึ้นโต๊ะเสวยของจักรพรรดิด้วย
ใน "ความฝันในหอแดง" เล่าว่า เจี่ย เป่าอี้ว์ไม่ยอมรับประทานเอง กลับเก็บไว้ให้สาวๆ ขนมชนิดนี้มีอีกชื่อเรียกว่า "ฉางโซ่วเปา" แปลว่า ขนมอายุยืน เพราะทั้งเห็ดหูหนูดำและเต้าหู้มีบทบาทลดไขมันในเลือด โดยเฉพาะฟองเต้าหู้ มีสรรพคุณเสริมความงาม ทำให้แก่ช้า และสำหรับกลุ่มคนที่มีความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงและน้ำตาลในเลือดสูง ขนมเปลือกฟองเต้าหู้ถือเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
การบำรุงร่างกายในหน้าร้อนจัด
ใน "ความฝันในหอแดง" เขียนว่า ไม่ว่าอากาศร้อนถึงขนาดไหน ก็ต้องใส่ชุดนอนเวลาเข้านอน อย่างน้อยต้องใส่ผ้าเอี๊ยม คุมหน้าอกและท้อง และจะนอนในที่ที่เย็นมาก เช่น บนเตียงหินหรือม้านั่งหินไม่ได้ จะเจ็บป่วยเอา และในหน้าร้อน ก็ไม่ควรดื่มน้ำเย็นหรือกินน้ำแข็ง อย่างมากดื่มน้ำชาที่แช่เย็นในบ่อน้ำ
ร่างกายเรามีหลายที่กลัวความเย็นที่สุด เช่น ลำคอ อาหารที่เย็นเกินไปจะกระตุ้นคอ จนทำให้ลำคออักเสบ ถ้าส่วนคอเย็น จะทำให้กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ถ้าท้องเย็น จะทำให้ท้องเสีย โดยเฉพาะผู้หญิง จะป่วยโรคสตรี ถ้ากระเพาะเย็น จะท้องเสียและคลื่นไส้ ส่วนไหล่และเข่า เมื่อเย็นจะทำให้เกิดอาการปวดตามข้อ
การหวีผมในฤดูใบไม้ผลิ
ใน "ความฝันในหอแดง" มีหลายที่เล่าถึงการหวีผม ชาวจีนในสมัยโบราณ ต้องหวีผม 100-200 ครั้งในช่วง 3 เดือนฤดูใบไม้ผลิ จักรพรรดิเฉียนหลงอายุยืนถึง 89 พรรษา วิธีการบำรุงสุขภาพอย่างหนึ่งก็คือการหวีผม การหวีผมควรหวีจากกลางศีรษะลงข้างล่าง ทั้งบำรุงผม ป้องกันผมร่วง ยังช่วยให้นอนหลับได้ดีด้วย ถ้าไม่มีเวลาหรือไม่มีหวี ก็ใช้นิ้วมือสางผมแทน และนวดศีรษะวันละ10-20 ครั้ง
อารมณ์ดี
ท่านนายแม่และยายเฒ่าหลิว อายุ 83 และ 85 ปี คนหนึ่งรวย อีกคนหนึ่งยากจน แต่ล้วนมีอายุยืน เคล็ดลับก็คือ ทั้งสองคนไม่โดดเดี่ยว ชอบอยู่ร่วมกันหลายคน ชอบสร้างบรรยากาศคึกคัก ชอบอยู่กับลูกหลานอย่างสนุกสนาน ชอบพูดเล่น ไม่โกรธคนอื่น มีจิตใจสงบ ในสังคมปัจจุบัน โรคหลายอย่างเกิดขึ้นจากอารมณ์ ผู้ที่ใจแคบ คิดมาก หงุดหงิด ขี้บ่น ไม่ชอบคบเพื่อน ไม่ยอมเปิดใจ มักเป็นโรคกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ จนกระทั่งมะเร็ง