ภายในวัดมีสถานที่น่าสนใจมากมายตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันครับ ด้านหลังของตั๋วเข้าชมจะมีแผนที่แนะนำชัดเจนว่าเราควรเริ่มเดินจากตรงไหน ท่านใดอยากซึมซับประวัติศาสตร์อย่างถ่องแท้ก็สามารถเช่าเครื่องให้ข้อมูลแบบพกพาได้บริเวณจุดจำหน่ายตั๋ว ผมนึกแล้วก็ได้แต่เสียดายในความตระหนี่ถี่เหนียวของตัวเอง ที่คิดว่าเข้าไปหาอ่านขอมูลเอาข้างในก็คงได้เหมือนกัน ปรากฎว่ามีระบุไว้เหมือนกันครับ แต่สั้นมาก ๆ ไม่ได้รู้กับเขาหรอกว่าแต่ละห้องมีประวัติความเป็นมาอย่างไร
คร่าว ๆ แล้วการเดินชมวัดแห่งนี้ผมแนะนำให้เริ่มจากการเก็บส่วนที่เป็นหอในแนวตั้งให้ครบก่อน แล้วเดินย้อนกลับลงมาบริเวณโถงตรงกลางที่เป็นที่ตั้งของต้นแปะก๊วยยักษ์เพื่อเก็บปีกซ้าย-ขวา
ส่วนตัวผมแล้วที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ กลับไม่ใช่ไฮไลท์เด็ด ๆ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาแล้วต้องสัมผัสกันอย่างเช่น ปลาหิน หรือวิวแบบพาโนรามาบริเวณจุดสูงสุดของวัด หากแต่เป็นการได้ทานอาหารที่เตรียมมาพร้อมกับสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกจากต้นติงเซียง ดูวิถีชีวิตของชาวพุทธจีนที่จูงลูก ๆ มากราบไหว้พระทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัด เท่านี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้หายเหนื่อยและคุ้มค่ากับการเดินทางมาแล้วล่ะครับ