อินทนิล อินไชน่า: แบ็คแพ็คกำแพงเมืองจีน
  2016-05-31 17:54:38  cri

อยากไปกำแพงเมืองจีนด่านปาต๋าหลิ่งโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์ อยากมีเวลาเฉิดฉายอยู่บนกำแพงได้นานๆ ไม่ต้องทำเวลาจนขาขวิด ที่สำคัญจ่ายนิดเดียวประหยัดตังค์ ค่ารถไฟไป-กลับเที่ยวละ 6 หยวน รวม 12 หยวนหรือประมาณ 60 บาท รถไฟหรูประเภทเดียวกับที่ใช้ในขบวนรถไฟความเร็วสูงสายต่าง ๆ รถสะอาด เสียงเงียบ เบาะนุ่มนั่งสบายกว่าที่นั่งชั้นประหยัดบนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่บนรถไฟสุภาพมีอาหารการกินเสนอขายในราคาไม่แพง แถมมีของเล่นให้ซื้อกลับได้ด้วย การเดินทางที่ว่านี้ถ้าจะให้ง่ายใช้รถไฟใต้ดินสาย 2 ของปักกิ่ง ลงที่สถานีซื่อจื่อเหมิน ออกทางออก A ซึ่งทางออกนี้จะมีไปต่อรถไฟสายต่าง ๆ เมื่อออกทางออกเอแล้วพยายามเดินชิดขวาลงทางลาดลงไปซ้ายมือจะมีประตูเล็ก ๆ ถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนั้นว่าไปปาต๋าหลิ่งเขาก็จะชี้ทางให้เดินเข้าไปผ่านจุดรูด IC Card( บัตรโดยสารรถเมล์ รถไฟนี้ซื้อได้ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ) จะเห็นที่นั่งเรียงรายว่างเต็มไปหมดเพราะคนส่วนใหญ่พากันไปเข้าแถวแถวยาวเหยียดเพื่อขึ้นรถไฟสาย S2 ไปปาต๋าหลิ่ง สายนี้วิ่งทุกวัน ๆ ละหลายเที่ยวตั้งแต่เช้าจนค่ำ เราเลือกไปวันธรรมดาหวังว่าคนจะน้อยกว่าเสาร์-อาทิตย์ และเลือกขบวนที่จะออกเวลา 08.34 น. ทว่าต้องไปเข้าคิวรอก่อนเป็นชั่วโมงมิเช่นนั้นอาจพลาดต้องรอเที่ยวต่อไปซึ่งทิ้งช่วงห่างกันนาน เพราะทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดประตูชานชลาผู้คนก็วิ่งกรูผ่านชานชลายาวไปแย่งที่นั่งกันบนรถ หอบแฮ่ก แต่ก็สนุก บางคนทะเลาะกันเพราะแย่งที่นั่งก็มี ทันทีที่รถไฟออกจากสถานี เจ้าหน้าที่บนรถก็พากันมานำเสนอขายสินค้าพวกอาหารการกินแถมย้ำว่าถูกกว่าที่กำแพงเมืองจีน ขายดีทีเดียว ที่เด็ดมากคือเขาประกาศว่าต่อไปนี้จะมีการเล่นกล มีเจ้าหน้าที่นำวัสดุที่หน้าตาคล้ายเลโก้ออกมาแล้วก็โชว์การแปลงโฉมของมันให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ โชว์เสร็จก็ขาย ได้ลูกค้าตรึม เจ้าหน้าที่บนรถไฟขบวนนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดี รวมถึงพนักงานทำความสะอาดบนรถที่จะคอยเดินนำถุงมาใส่ขยะจากผู้โดยสาร บนรถมีห้องสุขาพร้อม

ถึงสถานีปาต๋าหลิ่ง เวลา 10.05 น.ลงจากรถเดินเข้าไปในอาคารจะมีจุดรูด IC Card เพื่อจ่ายค่าโดยสาร แล้วก็เดินต่อไปอีกประมาณเกือบกิโล จะถึงจุดซื้อตั๋วเข้ากำแพงเมืองจีน ค่าตั๋วผู้ใหญ่ 40 หยวน เด็ก 20 หยวน พอได้ตั๋วแล้วจะมีผู้คนมาเชิญให้เข้าประตูไปรับใบประกาศนียบัตร The Great Wall Hero ว่าท่านได้มาพิชิตกำแพงเมืองจีนแล้ว แม้ในตั๋วระบุว่าเป็นบริการฟรี แต่เพื่อความมั่นใจคุณหลี่ หมินผู้นำทางกิตติมศักดิ์ถามย้ำอีกทีว่าเสียเงินไหม เขาบอกไม่ต้อง แต่พอเดินขึ้นไปชั้นสองมีการถ่ายภาพติดใบประกาศแล้วมีอีกหลายขั้นตอนดูท่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อย พวกเราเลยเผ่น ไม่เอาดีกว่า

ระหว่างทางจะไปขึ้นกำแพงเมืองจีนมีจุดขายตั๋วเข้าชมหลายจุด ไม่มีสินค้าแบกะดินล้อมหน้าล้อมหลังนักท่องเที่ยวเหมือนแต่ก่อน เพราะทางการจัดระเบียบให้เข้าไปอยู่ในร้านหมด ทำให้ภูมิทัศน์ดูงามตากว่าเดิมมาก ก่อนถึงทางเข้าเราจะพบกับป้ายข้อความที่ใคร ๆ ที่มามักถ่ายภาพกับป้ายนี้ ป้ายที่มีข้อความแปลเป็นไทยว่า "มาไม่ถึงกำแพงเมืองจีนก็ไม่ใช่ชายชาตรี –不到长城非好汉-ปู๋เต้าฉางเฉิงเฟยห่าวฮั่น" ซึ่งเป็นวรรคหนึ่งจากบทกวีที่ท่านประธานเหมา เจ๋อตง รังสรรค์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ1935 นอกจากบุรุษแล้วสตรีสตรีก็พากันมาถ่ายภาพกับป้ายนี้ รอจังหวะที่จะถ่ายเฉพาะตัวอักษรไม่มีภาพคนประกอบด้วย แต่รอเป็นนานสองนานก็ยังไม่ได้ ไหน ๆ กินอาหารร้านตรงข้ามกับป้ายอยู่แล้ว เลยถือโอกาสไปถ่ายภาพจากชั้นสอง

การขึ้นกำแพงเมืองจีนตรงด่านปาต๋าหลิ่งนี้จะมีจุดแยกให้เราเลือกว่าจะไปทางซ้ายมือหรือขวามือ ถ้าทางขวาทางขึ้นจะค่อนข้างลาด คนขึ้นเยอะกว่าทางซ้ายซึ่งเป็นทางชัน ถ้าจะลุยกันให้สนุกก็ต้องปีนให้คบทั้งซ้ายขวา เหนื่อยนักก็พักขาที่เนินราบตลอดจนป้อมปราการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรองเท้า เป็นพวกผ้าใบหรือรองเท้าที่ส้นไม่สูงพื้นยังไม่สึกจะกันลื่นได้ดี แม้จะมีราวบันไดเป็นราวเหล็กให้จับก็ตาม ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นกำแพงเมืองจีนจะสนุกกับการถ่ายภาพ ไม้เซลฟี่ช่วยได้เยอะ

ลงมาจากกำแพงเมืองจีน ถ้าไม่หิ้วของไปกินบนนั้น ส่วนใหญ่จะหิวเพราะถึงมื้อเที่ยงแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงมีร้านฟาสฟู๊ดอย่างเคเอฟซี ร้านอาหารจีนที่จัดเป็นชุดอย่างหย่งเหอต้าหวัง ชุดละ 32 – 37 หยวนรสชาติมาตรฐานที่สำคัญทั้งสองร้านนี้มีที่นั่งสบายแล้วอยู่ตรงข้ามป้าย "มาไม่ถึงกำแพงเมืองจีนก็ไม่ใช่ชายชาตรี " (ตอนหนึ่งจากบทกวีของท่านประธานเหมา เจ๋อตง ที่แต่งไว้เมื่อปี ค.ศ.1935) นอกจากนี้ยังมีภัตตาคาร ร้านอาหารให้เลือกมากกว่าแต่ก่อน ท่านใดที่ต้องการมาพักที่กำแพงเมืองจีนด่านปาต๋าหลิงก็มีโรงแรมชื่อเดียวกับด่าน ตั้งอยู่เยื้อง ๆ ทางเข้ากำแพงเมืองจีน ที่นี่มีภัตตาคารระดับดี

ขากลับก็กลับมาขึ้นรถไฟที่จุดเดิม เราเลือกกลับขบวนที่จะออกจากป๋าตาหลิ่งเวลา 14.20 น. ต้องไปเข้าแถวรอพอชานชลาเปิดก็วิ่งไปเข้าคิวรอรถไฟเดี๋ยวเดียวรถก็มา พอได้ที่นั่งก็หลับสนิท มาตื่นอีกทีเกือบถึงซื่อจื่อเหมินแล้ว การรันตีว่าที่นั่งเขาสบายมากยิ่งคนมีสัมภาระมาด้วยนี่ไม่ต้องห่วงเลย ช่องห่างระหว่างเก้าอี้แต่ละแถวห่างมากวางสัมภาระได้สบาย รถเข็นสำหรับเด็ก กระเป๋าเดินทางวางได้สบายมาก

ในบรรดาด่านขึ้นกำแพงเมืองจีนหลาย ๆ ด่านในกรุงปักกิ่งนั้น ด่านปาต๋าหลิ่งเป็นด่านที่สมบูรณ์ที่สุด มีคนไปเที่ยวมากที่สุด ไปง่ายที่สุด โดยเฉพาะไปทางรถไฟกำหนดเวลาไปกลับได้ชัดเจน ลองไปดูน๊า

ข้อมูลจำเพาะ กำแพงเมืองจีนเริ่มสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราชเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนกลุ่มน้อยในภาคเหนือ ต่อมาในสมัยชุนชิวจ้านกั๋ว เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงความเป็นใหญ่ เกิดสงครามอย่างต่อเนื่อง จึงได้สร้างกำแพงเมืองเมืองตามเทือกเขาชายแดนเพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้าม จนถึงปี 211 ก่อนคริสต์ศักราชจักรพรรดิ์จิ๋นซีได้ทรงรวบรวมจีนและได้เชื่อมกำแพงเมืองในแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน กำแพงเมืองจีนสมัยนั้นจึงมีระยะทางยาวกว่า 5,000 กิโลเมตร สมัยราชวงศ์ฮั่นได้มีการสร้างกำแพงเมืองจีนต่อจนยาวกว่า 10,000 กิโลเมตร ในช่วงกว่า 2.000 ปี ผู้ปกครองจีนสมัยต่าง ๆ ได้สร้างกำแพงเมืองจีนมากบ้างน้อยบ้าง รวมแล้วมีระยาทางกว่า 50,000 กิโลเมตร ทว่ากำแพงเมืองจีนในปัจจุบันหมายถึงกำแพงเมืองจีนที่สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ( ค.ศ.1368 – ค.ศ.1644 ) จากด่านเจียอี้กวน มณฑลกานซู่ทางภาคตะวันตกถึงริมแม่น้ำยาลู่ในมณฑลเหลียวหนิงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ผ่าน 9 มณฑล นครและเขตปกครองตนเอง โดยมีความยาว 7,300 กิโลเมตร หรือ 14,000 ลี้ กำแพงเมืองจีนจึงได้ชื่อว่ากำแพงหมื่นลี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1987

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040