สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนและความร่วมมือกับสื่อจีน
กำลังสำคัญในการก่อตั้งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน
กำลังสำคัญในการก่อตั้งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนที่กรุงเทพฯก็มาจากซีอาร์ไอ นอกจากนี้ยังมีสำนักข่าวซินหัว พีเพิลเดลี ซีซีทีวีแล้วก็ยังมีสื่ออื่น ๆของจีนอีกหลายสำนักที่ร่วมในการจัดตั้งสมาคมและร่วมเป็นกรรมการ โดยเฉพาะภาคภาษาไทย ซีอาร์ไอถือว่าเป็นแรงผลักดันสำคัญ โดยส่วนหนึ่งเราอยากให้สื่อมวลชนไทยกับสื่อมวลชนจีนมีความร่วมมือกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น อีกประการถ้าเราอยากจัดกิจกรรมให้สื่อไทยมาดูงานมาอะไรต่าง ๆ ที่จีน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสื่อจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ในปักกิ่งหรือหัวเมืองสำคัญช่วยประสานงาน ซีอาร์ไอซึ่งมีสำนักงานอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วจีนก็สามารถประสานงานได้เยอะมาก
ประเด็นความร่วมมือที่มีการหารือกันในครั้งนี้
การมาคุยกันครั้งนี้ก็เป็นส่วนเพิ่มเติมจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ว่าจะมีช่องทางอื่น ๆ ในการเผยแพร่ข่าสารของจีนไปสู่ไทยได้มากขึ้นหรือเปล่า อย่างเช่นประเด็นนิวมีเดีย สื่อใหม่ ปัจจุบัน เขาพูดถึงนิวมีเดีย เว็บไซต์ ออนไลน์ เฟซบุ๊ค อะไรต่อมิอะไรกันต่อไปแล้ว ทีวีเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เป็นทีวีแบบหน้าจอธรรมดามันมีทีวีออนไลน์อีก ดังนั้นเราน่าจะเพิ่มช่องทางเหล่านี้เข้าไปในความร่วมมือระหว่างซีอาร์ไอกับสมาคมด้วยหรือเปล่า นี่เป็นประเด็นที่เราคุยกันกับท่านผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซีอาร์ไอ
สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนที่เมืองไทยก็มีเว็บไซต์ มีเฟซบุ๊คอยู่ จะสามารถเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับจีนเข้าไปในเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊คได้ไหม นี่เป็นประการหนึ่ง หรือซีอาร์ไอให้การสนับสนุนจัดทำแมกกาซีน(นิตยสารรายเดือน)ที่เมืองไทยอยู่ กิจกรรมเหล่านี้สมาคมทราบไหมและจะสามารถเข้ามามีความร่วมมือในแมกกาซีนดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง เช่นอาจมีบทความ มีสาระอะไรต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้าไปได้หรือเปล่า หรืออีกประการซีอาร์ไอยินดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสมาคมกับซีอาร์ไอ ถ้าสมาคมจะส่งบุคลากรมาดูงานที่ปักกิ่งหรือปักกิ่งจะส่งบุคลากรไปแลกเปลี่ยนที่สมาคมฯจะทำได้หรือไม่ เป็นความร่วมมือที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายมีวงกว้างในการได้รับข้อมมูลข่าวสาร
ประชาชนผู้บริโภคข่าวสารจะได้ประโยชน์จากความร่วมมือมากที่สุด
นักข่าวไทย สำนักข่าวของไทยยังมีผู้รู้ภาษาจีนน้อย เนื่องจากเมืองไทยภาษาที่สองเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นข่าวต่างประเทศก็มักจะแปลจากข่าวภาษาอังกฤษที่มีสำนักข่าวต่างประเทศให้บริการอยู่เป็นหลัก ยกตัวอย่าง สำนักข่าวรอยเตอร์ สำนักข่าวอเพีพวกนี้เขาจะมีภาพมีข่าวมีอะไรต่าง ๆ แต่ประเด็นก็คือที่มาของเขามาจากสำนักข่าวตะวันตก แต่สำหรับจีนก็ต้องเข้าใจว่าบางเรื่องเสนอแบบเป็นกลาง บางเรื่องก็มีการเมืองแฝงอยู่ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าฝรั่งทำข่าวเขาก็มีมุมมองแบบฝรั่ง เขาอาจนำเสนอแบบไม่ถูกต้องด้วยความเข้าใจว่าเป็นแบบนั้น เขาอาจจะไม่มีอคติก็ได้ แต่เขาเข้าใจแบบนั้นเลยนำเสนอมาในมุมมองแบบนั้น หรือบางทีเขาอาจจะมีอคติเขาก็เลยเสนอออกมาแบบนั้น พอไทยแปลเราก็แปลออกมาตามที่เขาว่านั่นแหละ แปลให้คนไทยอ่านให้คนไทยฟังให้คนไทยดู ทำให้คนไทยได้รับทราบข้อมูลซึ่งตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง เอียงบ้าง ก็ออกมาเป็นแนวนั้น ทีนี้เราคิดว่าถ้าสื่อไทยสามารถรับข่าวสารโดยตรงจากจีนได้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้สื่อของจีนพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก ในไทยรู้สึกว่าจะมีสำนักข่าวของจีนรวมถึงซีอาร์ไอไปตั้งอยู่ในไทย 8 – 9 สำนักข่าวแล้ว ถือว่าเยอะมาก หลายสำนักข่าวก็มีการให้บริการข่าวสารโดยตรงกับสื่อไทย อย่างสำนักข่าวซินหัวเขาตั้งเป้าที่จะแข่งกับค่ายตะวันตกเลย มีการนำเสนอข่าวสารภาพได้อะไรได้อย่างนี้เป็นต้น นั่นเป็นทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็คือถ้านักข่าวไทยได้มีโอกาสมาเมืองจีนเยอะ ๆ มีโอกาสได้พูดได้คุยได้เห็นว่าข้อเท็จจริงเดี๋ยวนี้ จีนพัฒนาไปขนาดไหน ความคิดของนักวิชาการจีนเป็นอย่างไร ผู้นำจีนเป็นอย่างไร นักธุรกิจจีนเป็นอย่างไร หรือแม้แต่ประชาชนจีนเป็นอย่างไร เขาก็จะมีความเข้าใจโดยตรงมากขึ้น เวลาจะเขียนข่าวจะอะไรเขาก็จะได้ตรจสอบได้ แล้วก็มีมุมมองที่เป็นกลางและเป็นธรรมมากขึ้น คนที่จะได้ประโยชน์ที่สุดก็คือประชาชนผู้บริโภคข่าว สิ่งที่จะตามาก็คือความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ
มาแลกเปลี่ยนกับสื่อจีนกว่า 20 ปี มีเครือข่ายเพิ่ม
20 ปีก่อนหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจกับสถานีวิทยุซีอาร์ไอก็มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันแล้ว ผมกับคณะรวม 3 คน มาจีน 2 สัปดาห์ ซีอาร์ไอก็พาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไปสัมภาษณ์ แล้วซีอาร์ไอก็ส่งคณะ 3 คน ไปที่ไทย โดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจก็เป็นเจ้าภาพต้อนรับ ท่านอยากไปไหน ไปเจอใคร ไปสัมภาษณ์ใครเราก็ประสานให้ ก็เลยเป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องและพัฒนามา ระหว่างองค์กรกับองค์กร กลายเป็นองค์กรกับสมาคม เราก็เอาไปเชื่อมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจที่ไทย พอมาเป็นสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนเราก็ขยายตัวขึ้นมาอีก มีโครงข่ายมากขึ้นอีก แบบนี้เป็นต้น
เที่ยวนี้มาจีนหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีเชิญมา ซึ่งผู้สื่อข่าวของพีเพิลเดลีเขาก็เป็นสมาชิกสมาคมอยู่ กรรมการสมาคมที่มาด้วยกัน อย่างผมก็มาจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ กรรมการอีกท่านมาจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กรรมการอีกท่านมาจาก หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ มาในนามสมาคม เวลากลับไปเขียนจะไปเขียนกระจายลงในสื่อต่าง ๆ ผมมาเที่ยวนี้ก็ได้เจอเพื่อนสื่อต่างประเทศเยอะแยะ อย่างในหัวข้อความร่วมมือของสื่อมวลชนประเทศ 10 + 3 ผมก็ได้เจออีก 12 ประเทศ ได้มีโอกาสเจอกัน แลกเปลี่ยนนามบัตร รู้จักกัน ผมกำลังคิดปลายปีที่กรุงเทพฯจะจัดสัมมนาหัวข้อสื่ออาเซียนกับเออีซี ปีนี้เป็นปีแรกของเออีซีอย่างเป็นทางการ เราก็กะจะมาทบทวนกันว่า หนึ่งปีของเออีซีได้ผลไหม ก็กะจะเชิญสื่ออีก 8 – 9 ประเทศมาสัมมนากันที่กรุงเทพฯ เป็นต้น