ถ้าไปเที่ยวตำบลหวงเหลียง ต้องรับประทานอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุด นั่นก็คือเนื้อลา ในท้องถิ่นมีคำพังเพยว่า "บนสวรรค์มีเนื้อมังกร บนพื้นพิภพมีเนื้อลา" คนอำเภอหย่งเหนียนเริ่มกินเนื้อลาตั้งแต่ช่วงปลายราชวงศ์หมิง โดยเฉพาะการทำไส้กรอกมีประวัตินานกว่า 100 ปีแล้ว โดยนำเนื้อลามาสับ แล้วเติมแป้งถั่วเขียว น้ำมันงา เครื่องเทศต่างๆ ใช้ซุปข้นเป็นซอส ใส่ในไส้กรอก แล้วนำไปนึ่งและตุ๋นด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อฆ่าเชื้อ สุดท้ายอบกับไม้ต้นผลไม้ ทำให้ไส้กรอกเนื้อลาหย่งเหนียนนุ่ม หอม และอร่อยมาก
ในอำเภอเมืองมีร้านอาหารใหญ่ชื่อ หม่าเหลียนเซิง (马连升) จะขายอาหารเกี่ยวกับเนื้อลาโดยเฉพาะ มีไส้กรอกรสชาติต่างๆ ขาลาอบ เครื่องในลาอบ ลูกชิ้นเนื้อลา เกี๊ยวน้ำเนื้อลา เนื้อลาปิ้ง ย่างและทอด แต่ละวันช่วงเวลาประมาณบ่าย 2-3 โมง คนท้องถิ่นก็จะพากันไปเข้าคิวซื้อเนื้อลาที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ คนท้องถิ่นบอกว่า เนื้อลาของที่นี่เลี้ยงไว้เฉพาะสำหรับรับประทาน เนื้อจะนิ่ม ไม่มันไม่เลี่ยน และไม่มีกลิ่นแปลกๆ คนท้องถิ่นจึงชอบมาก และมีส่งไปขายในต่างมณฑลด้วย
นอกจากอาหารพื้นบ้านแล้ว เมืองหานตันยังมีสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่เมืองอื่นไม่มี นั่นก็คือ "เครื่องปั้นดินดำ" ภาษาจีนเรียกว่า "เฮยเถา" ซึ่งมีประวัติศาสตร์กว่า 4,000 ปีแล้ว(ตั้งแต่ราว 2,310-1,810 ปีก่อนคริสต์ศักราช) วัตถุดิบเป็นดินเหนียวแดงในพื้นที่ริมแม่น้ำเหลือง ผสมกับถ่านหินแล้วนำมาปั้นขึ้นรูป เช่น แจกัน ถ้วย จาน หลังจากนั้นจึงนำไปเผา ก็จะได้เครื่องปั้นดินเผาสีดำที่มีความเงางามทั้งสวยและดูลี้ลับ ถือเป็นของขวัญที่ดูดีเหมาะมอบให้เพื่อนฝูง ซึ่งราคาไม่แพง แจกันขนาดสูง 30 ซม. ไม่ถึง 300 หยวน
ถ้ำหินเสี่ยงถังซาน(响堂山石窟) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ ถ้ำหินเสี่ยงถังซานห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร เริ่มขุดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 500 - 577 สมัยฉีเหนือ ห่างจากปัจจุบันกว่า 1,400 ปี ต่อจากนั้น มีการขุดเกือบทุกราชวงศ์ ปัจจุบันมี 16 ถ้ำ พระพุทธรูปกว่า 5,000 องค์ แบ่งเป็นส่วนเหนือกับส่วนใต้ ในถ้ำส่วนเหนือ มีพระพุทธรูปพระศากยมุนีองค์ใหญ่ สูง 5 เมตร ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีสีสันสดใสปรากฏให้เห็น นับเป็นงานพุทธศิลป์ที่ทรงคุณค่ายิ่งทางประวัติศาสตร์