เมืองหานตัน(邯郸) เป็นเมืองใหญ่ของมณฑลเหอเป่ย ห่างจากกรุงปักกิ่งกว่า 450 กิโลเมตร ในเขตติดต่อระหว่าง 4 มณฑลได้แก่ ซานซี เหอเป่ย ซานตงและเหอหนาน
หานตันเป็นเมืองวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของจีน มีประวัติศาสตร์กว่า 8,000 ปีแล้ว เป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมฉือซาน(磁山文化)ยุคหินใหม่ เป็นเมืองเอกของก๊กจ้าวสมัยจั้นกั๋วเป็นเวลานานถึง 158 ปี เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ซ่งเหนือ และเป็นเมืองเอกมณฑลจื๋อลี่ของราชวงศ์ชิง
หานตันมีเหมืองแร่ชนิดหลากหลายอันอุดมสมบูรณ์ เป็นเหมืองถ่านหินและเหล็กสำคัญของจีน มีปริมาณสำรอง 4,000 ล้านตันและ 480 ล้านตัน ได้ฉายาว่า เมืองแห่งเหล็กกล้าและถ่านหินของจีน
นอกจากนี้ หานตันยังเป็นถิ่นกำเนิดศิลปะมวยไท่เก๊กและเข็มทิศ เมืองแห่งสุภาษิตจีน 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไหว้บูชาบรรพบุรุษของจีน
เมืองหานตันเป็นเมืองเดียวที่ใช้ชื่อเดิมมากกว่า 3,000 ปีไม่เคยเปลี่ยนแปลงในจีน ที่มาของคำว่า "หานตัน" มี 3 อย่าง คือ
1. ก่อนสมัยจ้านกั๋ว เรียกว่า กานตัน "กาน" หมายถึงพระอาทิตย์ขึ้นจากพื้นดิน ส่วน "ตัน"หมายถึง พระอาทิตย์ตกดิน หานตันหรือกานตันจึงมีความหมายว่า เป็นเมืองที่พระอาทิตย์ขึ้นและลง
2. มาจากแซ่ตระกูลใหญ่ของจีน สมัยโบราณมีคนแซ่หานตัน
3. มาจากชื่อภูเขา ในทางตะวันออกของเมืองมีภูเขาลูกหนึ่งชื่อ "หาน" ส่วนคำว่า "ตัน" มีความหมายว่าสุดขอบหรือท้ายปลายสุด เมืองนี้ตั้งอยู่สุดขอบของภูเขา จึงได้ชื่อว่าหานตัน
มวยไท่เก๊กถือเป็นอีกหนึ่งนามบัตรสำคัญของเมืองหานตัน "ปรมาจารย์หยาง ลู่ฉาน" ชาวอำเภอหย่งเหนียน เมืองหานตัน เป็นผู้คิดค้นศิลปะมวยไท่เก๊กขึ้นเมื่อปี 1799 และเป็นผู้ทำให้มวยไท่เก๊กเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศตลอดจนต่างประเทศ ปัจจุบัน มวยไท่เก๊กตระกูลหยางมีชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้ว โดยตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา เมืองหานตันจะจัดงานแข่งมวยไท่เก๊กระหว่างประเทศในทุก 2 ปี ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่ 13 และเพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา
พูดถึงมวยไท่เก๊ก ต้องเล่าถึงเมืองเก่ากว๋างฝู่(广府古城) ซึ่งอยู่ในอำเภอหย่งเหนียน เพราะเป็นบ้านเกิดของ "ปรมาจารย์หยาง ลู่ฉาน" ผู้ก่อตั้งมวยไท่เก๊กสาขาหยาง และ "ปรมาจารย์อู่ สู่เซียง" ผู้ก่อตั้งมวยไท่เก๊กสาขาอู่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถจากตัวเมืองหานตันเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเมืองเก่ากว๋างฝู่ เมืองนี้มีความยาวรอบเมือง 4.5 กิโลเมตร มองจากที่ไกลๆ ก็สามารถเห็นกำแพงเมืองเก่าที่สูง 10 เมตร หนา 8 เมตร ดูยิ่งใหญ่ไม่แพ้กำแพงล้อมพระราชวังต้องห้ามกู้กงที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีการสร้างคูเมืองใหญ่ล้อมรอบด้วย เงาของกำแพงเมืองและสะพานหินข้ามคูเมืองที่สะท้อนบนผิวน้ำทั้งสง่างามและอ่อนโยน ให้ท่วงทำนองเหมือนตำบลเล็กในทางภาคใต้ของจีน เมืองกว๋างฝู่มีพื้นที่ 1.5 ตารางกิโลเมตร เข้าประตูเมืองจะเห็นถนนสายหลัก ริมสองข้างทางมีร้านขายของและร้านอาหารตั้งติดกัน คึกคักมาก