"โลกก้าวไกล ลูกต้องก้าวให้ทัน" คำพูดอาจารย์แม่ สุนีย์ สินธุเดชะ ดังก้องหัวขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเริ่มเขียนเรื่องนี้อย่างไร ผมเขียนเรื่องนี้ในวันที่ตัวเองไม่สามารถต้านทานความก้าวหน้าของบ้านนี้เมืองนี้ได้อีกแล้ว และก็นับว่านานมาก ๆ ครับ หากไปบอกใครว่าใช้ชีวิตที่จีนถึง 2 ปีแต่ไม่มีทักษะการซื้อขายสินค้าผ่านทางโทรศัทพ์ เมื่อก่อนผมเคยนึกขำในใจกับคำพูดใครคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำที่ว่า "จะออกไปกินข้าวนอกบ้าน หากให้เลือกว่าลืมกระเป๋าตังค์หรือมือถือ เขาเลือกจะลืมอย่างแรก" มาวันนี้ความขำที่มีคงต้องยกให้ความเขลาของตัวเองมากกว่า
ย้อนกลับไปสัก 4 วัน เวลานั้นราว 2 ทุ่มครึ่งได้ครับ ผมนึกครื้มอกครื้มใจอยากจะซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ตอนนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าเงินสดหมดกระเป๋า แต่ทุกครั้งที่เหตุการณ์แบบนี้มันเกิด ผมก็จะใช้บัตรเดบิตจ่ายแทนเสมอ พนักงานสาวยิ้มรับบัตรจากมือด้วยความอ่อนน้อมเช่นเคย เธอรูด ๆ บัตรอยู่นานสองนานก่อนจะหันกลับมาพูดพร้อมสีหน้าขอโทษว่า "ขอโทษนะคะ ทางร้านปิดระบบการชำระเงินด้วยบัตรแล้วค่ะ" เธอเสนอทางเลือกให้ผมใช้บัตรเงินสดของร้าน ผมตอบเธอว่าผมไม่มี สาวเจ้าเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามต่อว่า "งั้นจ่ายด้วยวีแชทเพย์หรืออาลีเพย์ไหมคะ" ผมก็ตอบกลับไปแบบเดิมว่าผมไม่มี คราวนี้แหละครับ เธอสบตาผมแรงขนาดว่าถ้าตีความออกมาเป็นตัวหนังสือได้คงหมายถึง ไอ้หนุ่มนี่มันเพิ่งลงจากเทือกเขาไหนมาเข้าเมืองเนี่ย ท้ายที่สุดผมก็ต้องเดินกลับบ้านตัวปลิวพร้อมหิ้วความรู้สึกจากสายตาคู่นั้น
ผมเริ่มสังเกตพฤติกรรมการซื้อสินค้าบริการของชาวจีนละเอียดขึ้นแล้วก็พบว่าคนที่นี่เขาแทบไม่ใช้เงินสดซื้อสินค้าบริการกันแล้วครับ แทบทุกคนที่เข้าคิวจ่ายเงินก่อนหน้าผมไม่เคยมีใครควักเงินสดเป็นฟ่อน ๆ มานับจ่าย พ่อค้าแม่ขายในตลาดต่างติดภาพตัวเองพร้อม QR Code แปะหราหน้าร้าน หรือแม้แต่การเช่าจักรยานก็ยังต้องมีวีแชทเพย์ถึงจะสามารถปลดล็อคแล้วปั่น ๆ ไปไหนได้
ประโยชน์ของการใช้จ่ายผ่านมือถือเท่าที่เห็น มันไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นกระเป๋าตังค์เท่านั้นนะครับ บริษัทใหญ่ ๆ ในจีนจำนวนไม่น้อยพากันใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายให้ประชาชนจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์ ยกตัวอย่างเช่น หากจะซื้อตั๋วหนังสักใบ ที่ไทยซื้อออนไลน์ขายเท่าไหร่ หน้าโรงก็ขายเท่านั้น (ถ้าไม่นับพวกส่วนลดค่ายมือถือ) แต่ที่นี่ราคาต่างกันครึ่งต่อครึ่ง หรือจะเป็นการใช้บริการระบบขนส่งมวลชน เพียงแค่โทรศัพท์ของเรารองรับระบบ NFC ก็สามารถตัดเงินผ่านวีแชทเพย์ได้เช่นกัน
แต่พูดก็พูดนะครับ เมื่อเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ย้ายไปกองกันบนโลกออนไลน์มากขึ้น ความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง ผมถามเพื่อนร่วมงานตัวแม่นักช้อปท่านหนึ่งว่า "แล้วอย่างนี้ถ้ามือถือหาย เงินไม่ไปหมดทั้งบัญชีหรือ?" เธอตอบว่ามันไม่ใช่แค่คุณมีมือถือแล้วทุกอย่างจบ เพราะระบบจะถามรหัส บางทีถึงกับต้องใส่ลายนิ้วมือเพื่อให้แน่ใจว่านี่เจ้าของเป็นผู้ใช้งาน ดังนั้นค่อนข้างสบายใจได้ แถมยังติดขำพูดทิ้งท้ายว่า ถ้าเงินหายให้สงสัยคนใกล้ตัวไม่ก่อน
นึก ๆ ดูแล้วผมต้องขอบคุณพนักงานคิดเงินสาวคนนั้น ที่สอนอีกบทเรียนสำคัญให้ชีวิตว่า เเมื่อไหร่ก็ตามที่เราตกขบวนกระแสโลกาภิวัฒน์ แม้จะเดินอยู่บนรางแต่ก็ไม่พ้นต้องเผชิญความยุ่งยากให้ชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ว่าแล้วก็ไถมือถือทำเรื่องผูกบัตรเข้าวีแชทเพย์เลยดีกว่า