สนามเบสบอล ศูนย์รวมกล้อง
ตั้งแต่ผมมาทำงานที่ปักกิ่ง ทั้งมีโอกาสได้ทำสารคดีนั่งรถไฟเที่ยวรายการนี้ ยังเป็นผู้บรรณาธิการบทความสารคดีหลายเรื่องที่ออกอากาศไปแล้ว และยังคงเผยแพร่ต่อในเว็บไซด์ของซีอาร์ไอ พบว่า เวลาเรื่องราวการเดินทาง วัฒนธรรม ดนตรี ทุกเรื่องจะต้องมีเรื่องเล่า มีตำนาน มีบุคคลในอดีตเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์หลายสิ่งที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน หนึ่งอาจเพราะจีนเป็นประเทศที่มีประวัติมายาวนานหลายพันปี หนึ่งอาจเพราะนิสัยความเป็นคนช่างเล่าเรื่องของคนจีน และอีกหนึ่งอาจเพราะความเคารพบรรพบุรุษ ให้เกียรติผู้ที่มาก่อน ซึ่งความหมายในปัจจุบันอาจจะเรียกว่าเป็นการให้เครดิต เป็นการขอลิขสิทธิ์ โดยให้เชิงอรรถไว้
โดยเฉพาะรายการของผม ทุกสถานที่ที่ย่างกรายไป ต่างมีเรื่องเล่าและตำนานของตน นี่ขนาดเป็นสถานที่ที่อยู่นอกเมือง เมื่อไหร่ไปถึงเขตเมืองชั้นในรับรองได้ว่า เรื่องราวของสถานที่ต่างๆ ต้องไม่สามารถบรรยายได้เพียงแค่ในเวลาเพียง ๑๐ กว่านาทีได้แน่นอน คงต้องมีตอนที่หนึ่ง ตอนที่สองมาเล่าให้ฟังแน่นอนครับ
ก่อนอื่นที่จะเดินทางไปตามหาจุดกำเนิดของเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ ผมขอคารวะท่านเจ้าของตำนานด้วยนะครับ ที่นำเอาเรื่องราวมาเล่าขานใหม่ แต่ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ หวังว่าท่านคงอนุญาต
ถ้าไม่อนุญาต ผมก็ไม่รู้จะบากหน้าไปขอท่านที่ไหนล่ะครับ
บ่ายวันอาทิตย์หลังจากรองท้องเรียบร้อย เตรียมขวดน้ำ กล้องถ่ายรูป สมุด ปากกาและร่มแล้ว ผมก็พร้อมเดินทางไปตามหาสนห้าต้นแล้ว
ครับ...ที่ต้องพกร่มไปด้วย เพราะผมต้องยืดอก...เอ้ย ไม่ใช่ครับ เพราะว่าวันนั้นฝนตกปรอยๆ ไม่หยุดมาตั้งแต่คืนวันเสาร์แล้ว แต่จะไม่ออกเดินทางก็ไม่ได้ เพราะท่านผู้ฟังก็จะไม่มีเรื่องราว ตำนาน และสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ทำความรู้จักใช่ไหมครับ
นอกจากร่มแล้ว ผมยังต้องสวมเสื้อข้างในถึง ๒ ชั้น แล้วประกบด้วยแจ๊กเก็ตหนาๆ อีกหนึ่ง ศีรษะก็ต้องปิดป้องด้วยหมวก เพราะนอกจากป้องกันละอองฝนแล้ว ยังกันกระหม่อมอันบอบบางไม่ให้ตากอากาศหนาวราว ๑๐ องศาได้
ผมพ้นอุโมงค์สถานีอูเกอซงออกมาตอนราวบ่ายโมงครึ่ง แลหาสถานที่สำคัญที่แผนที่ในรถใต้ดินระบุไว้ ว่าตั้งอยู่บริเวณโดยรอบ หรือไม่ไกลจากสถานีนั่นเอง (ทุกสถานีจะมีแผนที่บอกสถานที่สำคัญอยู่ครับ) ทั้งโรงพยาบาลทหารปลดแอกประชาชน เจี่ย ฟั่ง ชุน และสนามกีฬาแห่งชาติที่ใช้แข่งขันบาสเก็ตบอลในโอลิมปิกปักกิ่งที่เพิ่งจบลงไปหมาดๆ
โรงพยาบาล mingshi ศูนย์รวม
1 2 3 4 5 6 7
|