China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2008-10-13 17:11:13    
ตามหาต้นสนทั้งห้าที่ สถานีอู่ เกอ ซง
รายการสถานีต่อไป

cri

แม่น้ำจินโกว

และเมื่อผมเดินเลาะแม่น้ำมา อยู่ดีๆ ก็มาพบศูนย์ขายเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่มาก ระดับชาเรนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานีเลยทีเดียว รถยนต์จอดเต็มลาน คนเดินเข้าออกไปขาด สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจจีน เพราะประชาชนมีเงินจับจ่ายในระดับปัจจัยสี่ได้อย่างคับคั่งเช่นนี้

ไม่ต่างจากศูนย์จำหน่ายกล้องถ่ายรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างๆ ผมแวะเดินเข้าไปดู เห็นผู้คนแย่งกันจ่ายเงินซื้อกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดราวกับแจกฟรี ผมเอา ๕ คูณดูแล้ว ตกตัวละประมาณ ๓ หมื่นบาทไทย นี่ถ้าเป็นแยกพลับพลาไชยสงสัยก็ยังคงตั้งอยู่ในตู้โชว์อีกหลายเดือนกว่าจะขายออก

เห็นคนซื้อกันขนาดนี้ ทำให้นึกถึงคำของรุ่นพี่ที่จบโฟโต้เพาะช่างรุ่นแรกคนหนึ่งที่มักพูดกับผมเสมอเวลาเห็นคนซื้อกล้องใหม่ว่า "กล้องแพงไม่ได้แถมฝีมือมาด้วยนะโว้ย"

ที่แกพูดอย่างนั้นไม่ใช่ดูถูกคนแต่ภายนอกนะครับ แต่แกปลอบใจตัวเองที่ยังไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนกล้องใหม่ซะที ส่วนผมก็เก็บเอากล้องป๊อกแป๊กซ่อนในกระเป๋าตั้งแต่ย่างขาเข้าไปแล้ว

ผมออกนอกเส้นทางตามหาสนห้าต้นมาไกลพอสมควร และเวลาก็ล่วงเลยจนพระอาทิตย์กำลังจะจมหายไปหลังม่านตึกแล้ว ผมรีบบ่ายหน้าเดินกลับไปทางทิศใต้ และเลือกเดินอีกฝั่งถนน เพราะถ้าเดินด้านนี้ก็จะไปถึงสนามบาสเก็ตบอลอีก เป็นเสียเวลาซ้ำรอยเดิมเปล่าๆ

อีกฝั่งถนนนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่ากิ่งหลิวที่ถอดตัวโค้งลงมาเป็นอุโมงค์เหนือฟุตปาธ ทำให้อัตราความเร็วในการเดินเพิ่มขึ้น เพราะไม่ได้แวะดูอะไรเลย สามสิบนาทีเศษผมก็วนกลับมาจนถึงสถานีรถไฟใต้ดินอู่เคอซงอีกครั้ง

ที่ตรงนี้แสงอาทิตย์ยังสาดส่องวิบวับลอดแมกไม้ที่ส่ายไหวตามแรงลมมาได้ เพราะไม่มีตึกมาบดบัง ผมยกกล้องขึ้นกะจะบันทึกแสงสุดท้ายของวันที่อู่เกอซง แล้วจะจดลงไปในสมุดด้วยว่า ภารกิจอันล้มเหลวของวันนั้นก็สิ้นสุดลงพร้อมกับแสงสุดท้ายของวัน

แต่ผมก็ยิ้มออกมาได้ เพราะแม้ขนาดของลำต้นจะมีขนาดเพียงแค่ต้นขา แต่มันก็เป้นต้นสน และเป็นต้นสนจำนวนห้าต้นจริงๆ มันยืนอยู่หลังทางลงสถานี และมองจากช่องที่ผมขึ้นมาก็ถูกบดบังด้วยต้นไม้ใหญ่ ตามความคิดของผมขนาดของต้นมันน่าจะมากกว่านี้ เพราะตามข้อมูลแล้ว มันน่าจะถูกปลูกขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี ๑๙๖๕ ซึ่งถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา ๔๒ ปีแล้ว ตอนมองหาจึงมองแต่ต้นที่มีขนาดใหญ่ จึงคาดไป ทั้งที่อยู่เพียงแค่ปลายจมูก

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ภารกิจของวันนี้ก็สำเร็จลงด้วยดี พร้อมกับแสงสุดท้ายของวันอย่างมีความสุข และก็ได้สะท้อนใจถึงระยะเวลาที่กว่าต้นไม้ต้นหนึ่งจะเติบโต แต่เราใช้เวลาไม่ถึงนาทีดีด้วยซ้ำในการโค่นมันลง

พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะครับ


1 2 3 4 5 6 7