China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2008-10-13 17:11:13    
ตามหาต้นสนทั้งห้าที่ สถานีอู่ เกอ ซง
รายการสถานีต่อไป

cri

      

         โรงพยาบาลทหารปลดแอก        ร้านเป็ดเฉินจื้อเต๋อ

ห้วงเวลาที่ผมไปถึงนั้นบ่ายคล้อยไปแล้ว ผมยืนรับลมอยู่ที่กลางสะพานนิ่งมองลุงสองคนที่ริมตลิ่งนั่งสูบบุหรี่คุยกัน เรือลำน้อยของเขาผูกติดอยู่กับตอม่อสะพาน ดูเหมือนทั้งสองคนจะมีเวลาอย่างเหลือเฟือ ไม่เร่งรีบ ไม่ยี่หระกับอะไร บางครั้งก็ทอดสายตามองท้องน้ำ โรยควันไปในอากาศโดยไม่ได้ปริปากสนทนากันเลย ผมยืนมองแกอยู่นานสองนาน อิจฉากับทุกวินาทีแห่งความสงบที่แกมี หรือไม่แกก็คงอยู่ที่นี่มาจนไม่มีอะไรมาฉุดความสนใจได้ ต่างจากผมที่พยายามซึมซับกับทุกสิ่งรอบกาย ทั้งจด ทั้งบันทึกภาพ ด้วยกลัวว่าประสบการณ์ทางสายตาเหล่านี้จะสูญหายไป และห้วงอารมณ์ที่ได้สัมผัสจะเลือนหายไป

แปลกจริง คนเราเอาความทรงจำไปเก็บไว้ที่ไหนนะ และยิ่งกับลุงสองคนนี้ที่ผ่านชีวิตมายาวนาน หรือว่าที่แกนิ่งเงียบไม่สนทนากันนั้น แกกำลังดึงเอาภาพแห่งอดีตออกมาคลี่ชมกันอยู่ เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเห็นใกล้ๆ ถ้าสายตาผมซูมได้เหมือนกล้องภาพยนตร์ อาจจะเห็นภาพใกล้ ริมฝีปากเผยยิ้มกับอดีตอันหอมหวานของแกอยู่ก็เป็นได้

ผู้สูงอายุในปักกิ่งจะไม่นั่งอุดอู้อยู่แต่บ้านเหมือนอย่างคนชราบ้านเรา แต่จะนิยมออกมาเดินอกกำลังกาย มานั่งหย่อนใจ และไม่แปลกเลยที่จะเห็นสองตายายในรถเข็น ไม่ฝ่ายชายก็ฝ่ายหญิงที่ยังพอมีแรงมากกว่าเป็นคนเข็น เห็นทีไรก็ยิ้มออกได้ทุกครั้ง เป็นภาพน่ารักที่หายากในเมืองไทย แต่ความรักแบบนี้มีอยู่ทุกที่ในปักกิ่ง

ผมต้องตัดใจจากภาพโรแมนติกริมฝั่งน้ำ เพราะแสงแดดกำลังโรยราลง แม้จะเป็นเวลาเพียงบ่ายสี่โมงเศษ เพราะหน้าหนาวทำให้พระอาทิตย์หนีไปไวขึ้น

ผมเดินเลาะมาตามถนนเลียบแม่น้ำ ผ่านสวนสาธารณะไร้ชื่อเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีคนเล่นปิงปองอยู่ ๒-๓ โต๊ะ ทุกคนจับไม้จีนกันหมด ไม่มีใครจับแบบเวสเทิร์นสักคน เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของจีนอย่างแท้จริง

การเดินทางแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไม่มีข้อมูลชั้นปฐมเลยแบบที่ผมทำอยู่นี้ก็สนุกไปอีกอย่าง เพราะมีแค่แผนคร่าวๆ แต่ระหว่างทางเรากำหนดไม่ได้ ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเสน่ห์ในการเท่องเที่ยวแบบที่ชมชอบมากที่สุด

ท่านผู้ฟังลองดูก็ได้นะครับ เมื่อเราไปในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ลองเดินดู เดินเป็นวงกลมแบบที่ผมทำ ยังไงเราก็ไม่หลงทาง แม้จะสื่อสารอะไรไม่ได้เลยก็ตาม ทำแบบนี้แล้วเราจะรู้จักสถานที่แห่งนั้นอย่างแทบสนิทสนมทันทีทั้งบ้านเรือน ซอกซอยและผู้คน เพราะผมเชื่อว่าพระเจ้าสร้างความเร็วให้เรามาไม่มากนัก สายตาเราสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ความทรงจำของเราก็จะได้ประมวลผลในระดับที่ชัดเจนไม่พล่าเลือน เพราะการเดินทางที่เร็วเกินไป มาอีกกี่ครั้งเราก็ยังจดจำเส้นทางและผู้คนของที่นั่นได้อย่างแจ่มชัด

1 2 3 4 5 6 7