สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 11 มีนาคม ที่สำนักงานซีอาร์ไอ อ.เกื้อพันธุ์ นาคบุปผา อาจารย์รับเชิญภาคภาษาไทย มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง และ อ.เฉิน ลี่ หัวหน้าภาควิชาภาษาไทยมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่งได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอเกี่ยวกับ "คำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลประจำปี 2011" ที่ประกาศในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติชุดที่ 11 ครั้งที่ 4 เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยแสดงมุมมองในเรื่อง การพัฒนาสถาบันการศึกษาให้ขึ้นสู่ระดับสากล
บทสัมภาษณ์ อ.เฉิน ลี่ หัวหน้าภาคภาษาไทย มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง
และ อ.เกื้อพันธุ์ นาคบุปผา
อาจารย์รับเชิญภาคภาษาไทย มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง
คุณนรินรัตน์:ถามอาจารย์เกื้อพันธุ์ นาคบุปผา มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการที่นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวใน "คำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลประจำปี 2554 " ว่า ต้องพัฒนาภารกิจด้านการศึกษาเป็นอันดับแรก เร่งพัฒนาการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์ ให้ผู้คนทั้งหลายได้รับการศึกษาที่มีรูปแบบหลากหลายมากยิ่งขึ้น ยุติธรรมยิ่งขึ้น และมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น
อาจารย์เกื้อพันธุ์:ในฐานะที่เป็นครูและก็อยู่ในแวดวงการศึกษา เมื่อได้ยินนโยบายนี้ ดิฉันรู้สึกชื่นชมยินดีกับประชาชนจีนด้วย เพราะว่าการศึกษานั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาบุคคล เราพัฒนาคุณภาพชีวิต ก็เริ่มต้นจากการศึกษา นอกจากนั้น การพัฒนาคุณภาพบุคคล ยังจะช่วยพัฒนาสังคมและพัฒนาประเทศชาติได้ เมื่อนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะพัฒนาการศึกษาเป็นอันดับแรก นั่นหมายความว่าท่านได้เห็นประโยชน์ของการศึกษา และก็เป็นประโยชน์ใหญ่หลวงสำหรับทั้งประชาชาติและทั้งประเทศจีน ถ้าเมื่อไรประชาชนมีการศึกษา เขาก็ย่อมพัฒนาตัวเอง ถ้ามองในแง่การทำงาน ประชาชนที่มีการพัฒนาด้วยการเรียนรู้แล้ว เขาก็เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า ซึ่งจะไปทำงานได้ เรายกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า คนที่มีความรู้ขั้นพื้นฐานที่จบชั้นประถมปลาย การทำงานนั้น เขาจะต้องใช้แค่แรงงาน แต่เมื่อไรเราพัฒนาคนเหล่านี้ จนกระทั่งเขามีเทคโนโลยีจากการที่เป็นเพียงแรงงาน ก็อาจจะเป็นช่างฝีมือ นั่นแปลว่าเขาได้พัฒนางาน ในขณะเดียวกัน เขาก็จะพัฒนาตัวเองด้วย คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้น เมื่อคน ๆ หนึ่งได้อย่างนี้ ก็แสดงว่าทั้งครอบครัวก็จะดีขึ้น เมื่อหน่วยเล็กของครอบครัวมีการพัฒนา มันก็จะพัฒนาไปสู่สังคม จากสังคมกลุ่มย่อยถึงสังคมกลุ่มใหญ่