เมื่อเร็วๆ นี้ นายทากะคาเกะ ฟูจิตะ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการชาวเมืองสันติภาพจากพรรคสังคมประชาธิปไตยญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
"รู้สึกว่าสภาพปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนเป็นที่น่าเสียดายมาก ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ฉลองวาระครบรอบ 40 ปีของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน สองฝ่ายควรถือการครบรอบ 40 ปีนี้เป็นโอกาสในการหารือเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต และการพัฒนาร่วมกัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เป็นที่น่าเสียดายมาก"
นายทากะคาเกะ ฟูจิตะ อายุ 64 ปี เข้าวงการการเมืองมาเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว เมื่ออายุ 24 ปี เข้าเป็นสมาชิกของ "พรรคสังคมญี่ปุ่น" ซึ่งนั่นก็คือ "พรรคสังคมประชาธิปไตย" ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน เขาติดตามผู้อาวุโสของพรรคมาโดยตลอด ทุ่มกำลังในการพัฒนามิตรภาพระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เคยมาเยือนจีนกว่า 50 ครั้ง เขาชี้ให้เห็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นตกในสภาพชงักงันในปัจจุบันว่า
"การกระทำเชิงท้าทายของนายอิชิฮาระ ชินตาโร ผู้ว่าการกรุงโตเกียว(Ishihara Shintaro) ที่ว่าจะจัดซื้อเกาะเตี้ยวอี๋ว์ และมาตรการรับมือที่ผิดพลาดของรัฐบาลนายโยซิฮิโกะ โนดะ เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ปัญหาร้ายแรงยิ่งขึ้น และเป็นการเหยียบย่ำความรับรู้ร่วมกันและคำมั่นสัญญาที่อดีตผู้นำทั้งสองประเทศเคยทำไว้"
นายทากะคาเกะ ฟูจิตะยังกล่าวเน้นว่า ญี่ปุ่นควรกลับสู่จุดตั้งต้นของความรับรู้ร่วมกันที่ให้ "วางข้อพิพาทไว้ก่อน" ที่อดีตผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุไว้ขณะที่ลงนาม "สนธิสัญญาว่าด้วยสันติภาพและมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นกับจีน" เมื่อปี 1978
(Ton/Lin)