การแถลงข่าวที่จัดขึ้นในวันเดียกวัน มีผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายโคอิชิโระ เกมบะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ "เลอ ฟิกาโร" ของฝรั่งเศสว่า "เกาะเตี้ยวอี๋ว์เป็นดินแดนของญี่ปุ่น แต่มีบางประเทศประกาศว่ามีอธิปไตยเหนือดินแดนต่อเกาะเตี้ยวอี๋ว์ โดยไม่สนใจระบบระหว่างประเทศ ถือเป็นการไม่ชอบด้วยธรรม " นั้น ฝ่ายจีนมีความเห็นยังไงต่อการนี้
นายหง เหล่ยกล่าวว่า เกาะเตี้ยวอี๋ว์และหมู่เกาะโดยรอบเป็นดินแดนดั้งเดิมของจีน โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมาย เมื่อ 117 ปีก่อน เป็นช่วงระยะเวลาที่ญี่ปุ่นก่อสงครามรุกรานต่างประเทศเพื่อขยายดินแดน และยึดครองเกาะเตี้ยวอี๋ว์และหมู่เกาะโดยรอบของจีนไปในช่วงนี้ด้วย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ญี่ปุ่นฝ่าฝืนสนธิสัญญาซึ่งถือเป็นเอกสารเชิงกฎหมายระหว่างประเทศ ได้แก่ "ปฏิญญาไคโร" และ "สนธิสัญญาปอร์สดัม" โดยปฏิเสธไม่คืนเกาะเตี้ยวอี๋ว์ให้กับจีน นับเป็นการต่อต้านต่อข้อตกลงของประเทศที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และท้าทายระบบระหว่างประเทศหลังสงครามอย่างเปิดเผย ฝ่ายจีนกล่าวเตือนว่า ญี่ปุ่นควรทบทวนและยอมรับประวัติศาสตร์ และทบทวนปัญหาการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยความจริงใจ
หลังจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา นายซินโซะ อาเบะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นไปคารวะศาลเจ้ายาซุคูนิแล้ว วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ยังมีสมาชิกรัฐสภาอีก 67 คนของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะรัฐมนตรี 2 คนไปคารวะศาลเจ้ายาซุคูนิ
สำหรับเรื่องนี้ นายหง เหล่ยกล่าวว่า ศาลเจ้ายาซุคูนิเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของลัทธิรัฐทหารญี่ปุ่นในการก่อสงครามรุกรานต่างประเทศในอดีต จนถึงปัจจุบันยังมีการตั้งป้ายชื่อของอาชญากรตัวสำคัญที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้ประชาชนประเทศต่างๆ ที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานของเอเชีย ต้องนองเลือดและเสียชีวิตเป็นจำนวนหลายสิบล้านคน ปัญหาศาลเจ้ายาซุคูนิเกี่ยวข้องถึงปัญหาที่ฝ่ายญี่ปุ่นจะยอมรับและจัดการกับประวัติศาสตร์การรุกรานอย่างถูกต้องหรือไม่ จะสามารถให้ความเคารพต่อจิตใจอารมณ์ของประชาชนประเทศต่างๆ ที่เคยถูกรุกราน ซึ่งรวมถึงจีนด้วยหรือไม่ เราจึงเรียกร้องฝ่ายญี่ปุ่นยอมรับและทบทวนประวัติศาสตร์ด้วยความจริงใจ โดยถือประวัิติศาสตร์เป็นอุทาหรณ์ มุ่งหน้าสู่อนาคต ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อปัญหาด้านประวัติศาสตร์ และมีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก
(Ying/Lin)