การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการแต่งงานของคนจีนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา (2)
  2012-11-26 13:36:10  cri
ต้นทุนการแต่งงานในสมัยทศวรรษ 1990

ตัวอย่างนี้เป็นของนางหลัว หง ลูกสาวของลุงหลัว เธอแต่งงานกับหลี่ เผิง ผู้เป็นสามีเมื่อปี 1992 ต้นทุนการแต่งงานของเธอสูงเป็น 30 เท่าของพ่อแม่ หลัว หงจำได้ว่า ช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว ราคาสินค้าทุกชนิดปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ รายได้เฉลี่ยของคนเข้าวัยแต่งงานในเมืองต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 700 หยวน ถ้าเชิญแขกที่มาร่วมงานแต่งงานให้ทานข้าวที่ภัตตาคารระดับกลางขึ้นไป ต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 800 หยวนต่อโต๊ะ สูงกว่าเงินเดือนระดับมาตรฐาน แต่หลัว หงกับสามีก็จัดงานเลี้ยงแต่งงานที่ภัตตาคารค่อนข้างดี โดยจองโต๊ะจีนทั้งหมด 16 โต๊ะเพื่อรองรับญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทมิตรสหาย ค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงแต่งงานของคู่นี้หมดไปเกือบ 16,000 หยวน

ในโอกาสแต่งงาน เจ้าบ่าวสาวคู่นี้ใช้เงิน 1,600 หยวนซื้อเสื้อผ้าและเครื่องนอน นอกจากนี้ยังใช้เงินอีก 2,200 หยวนซื้อแหวนทองคู่หนึ่งจากฮ่องกงโดยเฉพาะ ในยุคนั้นการซื้อบ้านใหม่ยังไม่ใช่เงื่อนไขบังคับสำหรับการแต่งงาน คู่สมรสชาวจีนส่วนใหญ่ยังนิยมอยู่กับครอบครัวเจ้าบ่าว โดยทางครอบครัวจะจัดห้องว่างห้องหนึ่งให้เป็นเรือนหอ การตกแต่งเรือนหอจึงเป็นกระแสนิยมของสังคมสมัยนั้น หลี่ เผิงผู้เป็นเจ้าบ่าวทำงานในด้านการก่อสร้างและการตกแต่ง เขาไปเลือกซื้อวัสดุตกแต่งบ้านชั้นดีและลงมือทำด้วยตนเอง จึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งเรือนหอ ในที่สุดครอบครัวเขาใช้เงินไป 2,000 หยวนในการได้บ้านที่สวยงามน่าอยู่

หลี่ เผิงจำได้ว่า เวลานั้นเพื่อนและญาติที่มีฐานะดีบางคนมีรถส่วนตัวแล้ว ขบวนรถทั้ง 5 คันที่มาร่วมแห่ในวันแต่งงานล้วนเป็นรถที่เขายืมมาใช้ สิ่งที่ทำให้คู่สมรสคู่อื่นอิจฉาอย่างยิ่งคือ พิธีแต่งงานของหลี่ เผิงกับหลัว หงได้รับการบันทึกภาพด้วยเครื่องถ่ายวีดีโอจากตอนต้นถึงตอนจบด้วย ซึ่งต้องขอบคุณพี่ชายของหลี่ เผิง ผู้ทำงานเป็นช่างถ่ายวิดีโอของสถานีโทรทัศน์ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ครอบครัวจีนเริ่มมีกล้องถ่ายภาพนิ่งก็จริง แต่ยังไม่มีบ้านไหนมีเครื่องถ่ายวิดีโอส่วนตัว ดังนั้น ภาพถ่ายเคลื่อนไหวที่บันทึกฉากต่างๆ ในพิธีแต่งงานของพวกเขา กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงยิ่งที่ทำให้คู่สมรสวัยเดียวกันทุกคู่อิจฉา

การแต่งงานของหลัว หงกับหลี่ เผิงดำเนินไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์ดี แต่หลัว หงยอมรับว่า มีบางเรื่องเสียดายบ้าง นั่นก็คือไม่ได้ถ่ายภาพที่ระลึกการแต่งงาน ซึ่งคนอื่นนิยมใส่ชุดแต่งงานสวยๆ ไปตั้งท่าหวานแหววถ่ายกัน ผู้หญิงจีนส่วนใหญ่เชื่อว่า เวลาที่ได้ใส่ชุดแต่งงานเป็นห้วงเวลาที่ผู้หญิงสวยที่สุด หลัว หงจึงตัดสินใจมานานแล้วว่า ต่อไปเมื่อถึงวันแต่งงานของลูกสาว ต้องให้ลูกสาวใส่ชุดแต่งงานสวยๆ ถ่ายภาพกับสามีในชุดสูทหล่อ จะได้ชดเชยความเสียดายของตนเองและสามี หลัว หงเปิดสมุดบัญชีมาทบทวนรายจ่ายทุกอย่างสำหรับการแต่งงานแล้วพบว่า ต้นทุนการแต่งงานของตนเองหมดไปกว่า 20,000 หยวน ตัวเลขนี้นับได้ว่าเป็นตัวแทนต้นทุนการแต่งงานของคนจีนในทศวรรษ 1990 ถ้าคิดด้วยเงินเดือนเฉลี่ยยุคนั้นซึ่งก็คือ 700 หยวน ผู้ชายคนเดียวต้องทำงานแบบประหยัดต่อเนื่องกัน 28 เดือนจึงจะมีเงินพอสำหรับการแต่งงาน

ต้นทุนการแต่งงานในศตวรรษที่ 21

ตัวอย่างนี้เป็นของนายเหลียง เจิงเป็นลูกชายของคุณอาเหลียง เขาแต่งงานกับภรรยาเมื่อปี 2009 งานเลี้ยงแต่งงานของเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้จัดขึ้นที่โรงแรมระดับ 4 ดาวในเมืองกว่างโจว ค่าอาหารต่อโต๊ะตก 4,000 หยวน ครอบครัวของเจ้าบ่าวจัดงบประมาณไว้ถึง 200,000 หยวนสำหรับจัดงานเลี้ยงขนาด 50 โต๊ะรองรับแขกทั้งหมดได้ถึง 400 คน นี่เป็นรายจ่ายที่ใช้เงินมากที่สุดของพิธีแต่งงาน ต้องยอมรับว่า สำหรับชาวบ้านทั่วไป งานเลี้ยงของเหลียง เจิงถือเป็นแบบเกรดดีมาก ใช่ว่าครอบครัวธรรมดาจะมีแรงพอจะจัดไหว

ปัจจุบัน ชาวจีนส่วนใหญ่เห็นว่า ลูกแต่งงานเมื่อไร ก็ควรซื้อบ้านให้ลูกกับคู่รักไปอยู่กันเอง เพราะความเคยชินในการดำรงชีวิตของคนรุ่นลูกย่อมแตกต่างกับของคนรุ่นพ่อแม่ ถ้าแต่งงานแล้วยังอยู่กับพ่อแม่อีก ความขัดแย้งในด้านต่างๆ ก็จะทยอยกันเกิดขึ้น โดยความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสะใภ้ ซึ่งทั่วทั้งสังคมจีนเชื่อว่าเป็นความสัมพันธ์ที่จัดการให้ดีได้ยากที่สุด ดังนั้น หากทางบ้านของฝ่ายชายมีฐานะทางเศรษฐกิจที่อำนวย ก็จะพยายามซื้อบ้านให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปอยู่กันเอง ถ้าเงินยังไม่พร้อม ทางบ้านฝ่ายหญิงก็จะชวยออกเพิ่ม

ครอบครัวอาเหลียงมีบ้านพักสองชุด จึงไม่ต้องลงทุนมหาศาลซื้ออพาร์ตเม้นต์ชุดใหม่ให้ลูก แต่กว่าจะใช้เป็นเรือนหอ บ้านเก่าต้องตกแต่งใหม่อีกรอบหนึ่งให้ดูสวยงามน่าอยู่ หลังเข้าศตวรรษที่ 21 ราคาวัสดุตกแต่งบ้านเพิ่มสูงขึ้นมาก ค่าแรงก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน เหลียง เจิงทุ่มเงินตั้ง 130,000 หยวนเพื่อตกแต่งเรือนหอจนพอใจตนเองและคู่รัก สำหรับคู่สมรสส่วนใหญ่ ค่าตกแต่งบ้านย่อมเป็นรายจ่ายที่มีสัดส่วนสูงในต้นทุนการแต่งงาน

นอกจากนี้แล้ว ทางบ้านเหลียง เจิง ยังรูดบัตรเครดิตจำนวน 30,000 หยวนซื้ออัญมณีและเครื่องประดับให้เจ้าสาว เช่น แหวนเพชร สร้อยคอและกำไล ทั้งลงทุนอีก 10,000 หยวนจ้างบริษัทจัดพีธีฉลองการแต่งงานมาออกแบบและจัดงานแต่งให้มีเอกลักษณ์และมีสีสันตามความต้องการของคู่สมรส จ่ายเงินอีก 4,500 หยวนสำหรับถ่ายภาพอัลบั้มแต่งงาน และอีก 3,000 หยวนเช่าชุดแต่งงานแบบหรูหราและชุดสูทเจ้าบ่าวที่ใช้ในวันแต่ง

เหลียง เจิงบอกว่า เนื่องจากเขากับภรรยางานยุ่งทั้งคู่ ก็เลยไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพื่อฮันนีมูน จึงประหยัดเงินได้ประมาณ 20,000 หยวน และเนื่องจากบ้านอยู่ใกล้สถานรถไฟใต้ดิน เดินทางค่อนข้างสะดวก พวกเขาจึงไม่ต้องซื้อรถ ถือว่าได้ประหยัดส่วนประกอบสำคัญหนึ่งของต้นทุนการแต่งงานไป ดังนั้น รายจายสูงที่สุดในต้นทุนการแต่งงานของเหลียง เจิงก็คือ ค่าใช้จ่ายจัดงานเลี้ยงแต่งงานที่โรงแรมหรูหราเป็นเงิน 200,000 หยวน ถือเป็นสองเท่าของรายจ่ายงานเลี้ยงแต่งงานแบบมาตรฐาน แสดงว่าครอบครัวของเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีเพื่อนฝูงใหญ่และญาติพี่น้องมาก จึงต้องลงทุนเป็นพิเศษ

คิดคำนวนแทนคู่สมรสนี้ที่แต่งงานเมื่อปี 2009 ต้นทุนการแต่งงานของพวกเขาใช้ไปทั้งหมดประมาณ 400,000หยวน ความจริง ในปีแต่งงาน เงินเดือน 8,000 หยวนของเหลียง เจิง ถือว่าค่อนข้างสูงแล้ว ซึ่งเป็นสองเท่าของคนทั่วไป แต่เขาก็ต้องขยันทำงานแบบอดกินอดใช้อย่างต่อเนื่องกัน 4 ปี(28 เดือน)จึงสามารถสะสมเงินได้มากเพียงพอสำหรับจัดงานแต่งแบบมีหน้ามีตา อย่าลืมว่า กรณีการแต่งงานของเหลียง เจิงกับภรรยานั้นไม่มีเงื่อนไขบังคับที่ต้องซื้อบ้านซื้อรถ สำหรับคนหนุ่นสาวทั่วไปในศตวรรษที่ 21 ถ้าตกลงจะแต่งงานในรูปแบบมีบ้านมีรถและจัดพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการโดยไม่ขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากพ่อแม่สองฝ่าย จึงไม่รู้ต้องดิ้นรนต่อสู้นานถึงเมื่อไรจึงจะสำเร็จลุ่ล่วงไปได้

ในยุคสมัยที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นทุกที ต้นทุนการแต่งงานนับวันสร้างแรงกัดดันให้กับหนุ่มๆ สาวๆที่เข้าวัยแต่งงานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่ความสุขไม่ได้ประเมินผ่านเงินทองอย่างเดียว ความรู้สึกในใจของคู่สมรสสำคัญที่สุด เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัว ใช่ว่าทุกคู่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานพิธีแต่งงานแบบมีหน้ามีตา เพราะการแสวงหาความพึงพอใจทางวัตถุไม่มีสิ้นสุด แค่ความรักและความเข้าใจต่อกันระหว่างคู่สมรสเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พิจารณาตามรายได้ของตนและฐานะเศรษฐกิจของครอบครัว จัดพิธีแต่งงานให้พอเหมาะกับที่ตนเองชื่นชอบ มีความประทับใจและมีความสุขทางใจสำคัญที่สุด เอาเงินประหยัดไว้ไปท่องเที่ยวในต่างประเทศไม่ดีกว่าเสี่ยค่าใช่จ่ายสูงลิบลิ่วจัดของงานเลี้ยงที่โรงแรมสุดหรูไม่ดีกว่าหรือ

(Lu Feng)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
社会
v การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการแต่งงานของคนจีนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา (1) 2012-11-26 13:23:35
v งานแต่งของชาวจีน (2) 2012-11-19 16:20:05
v งานแต่งของชาวจีน (1) 2012-11-19 16:17:41
v ปักกิ่งเพลินเพลิน "สิบเรื่องรักระหว่างรบของเหล่าบรรดานักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่ (3)" 2012-11-15 16:13:32
v ปักกิ่งเพลินเพลิน " สิบเรื่องรักระหว่างรบของเหล่าบรรดานักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่ " (2) 2012-11-08 10:00:00
v ปักกิ่งเพลินเพลิน "สิบเรื่องรักระหว่างรบของเหล่าบรรดานักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่ " (1) 2012-11-01 12:01:16
v สิ่งจำเป็นสำหรับงานแต่งของชาวจีน (2) 2012-10-29 12:50:40
v สิ่งจำเป็นสำหรับงานแต่งของชาวจีน (1) 2012-10-29 12:49:48
v ผู้ช่วยวางแผนขอแต่งงานในจีนได้รับความนิยมจากลูกค้า 2012-10-12 16:07:02
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040