หลังผ่านไป 18 เดือน หลี่น่า นักเทนนิสหญิงของจีน ได้ลงสู่สนามศึกแกรนด์สแลมอีกครั้งในรายการ "ออสเตรเลียน โอเพ่น" ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปี แม้ว่าผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ท้ายสุดแล้วต้องพ่ายให้กับวิคตอเรีย อซาเรนกา นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวเบลารุส และเจ้าของตำแหน่งแชมป์รายการนี้เมื่อปีที่แล้วไปอย่างน่าเสียดาย และแม้จะเกิดการบาดเจ็บระหว่างการแข่งขัน แต่รอยยิ้มและใจที่ฮึดสู้อย่างไม่ย่อท้อก็ทำให้เธอสามารถได้คะแนนใจจากผู้ชมไปเต็มๆ ซึ่งจากผลการแข่งขันทำให้เธอมีคะแนนสะสมห่างจากอักเนียสกา ราดวานสกา มืออันดับ 4 ของโลกจากโปแลนด์ 1,495 แต้ม ซึ่งดูจากสภาพการณ์ในปัจจุบันแล้ว การที่หลี่น่าจะขยับขึ้นนำและเข้าใกล้มืออันดับหนึ่งในสามของโลกไม่น่าจะใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม
หลี่น่ารับการตรวจสภาพร่างกายภายหลังล้มลงอีกครั้ง
และศีรษะกระแทกพื้น เนื่องจากการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย
หลี่น่ากับตำแหน่งแชมป์เทนนิสเฟรนช์โอเพนประเภทหญิงเดี่ยวประจำปี 2011 ซึ่งนับเป็นนักเทนนิสชาวเอเชียคนแรกที่ชนะเลิศเทนนิสแกรนด์สแลม และเป็นนักเทนนิสชาวเอเชียคนแรกที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเทนนิสแกรนด์สแลม ดังนั้น แม้ว่าผลการแข่งขันแกรนด์สแลมล่าสุดที่เพิ่งจบจะทำได้เพียงรองชนะเลิศ แต่ลีลาการโชว์ฟอร์มครั้งนี้ของหลี่น่ายังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเช่นเคย ทำให้เธอเป็นดาวกีฬาที่ทำรายได้สูงสุดของจีนในปัจจุบัน
ผลงานของหลี่น่านับตั้งแต่เปิดฤดูกาลใหม่ปี 2013 กับตำแหน่งชนะเลิศในรายการแข่งขัน "เซินเจิ้น หลงกั่ง เกมเดล โอเพน" และการเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการ "เอเปีย อินเตอร์เนชันแนล ซิดนีย์" ทำให้เธอได้รับเงินรางวัลรวม 144,910 เหรียญสหรัฐ (ราว 9 แสนหยวน) รวมกับเงินรางวัลจากตำแหน่งรองชนะเลิศศึกออสเตรเลียน แกรนด์สแลมอีก 1,215,000 เหรียญออสเตรเลีย (ราว 7.88 ล้านหยวน) ทำให้หลี่น่ากวาดรายได้จากการแข่งขันเพียงเดือนแรกหลังเปิดฤดูกาลใหม่ไปแล้วเกือบ 9 ล้านหยวน ซึ่งค่าตัวของเธอขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการกลายเป็น "เจ้าแม่โฆษณา" ที่ปัจจุบันเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าแบรนด์ดัง อาทิ ไนกี้ ไม้เทนนิส - Babolat นาฬิกาข้อมือ-โรเล็กซ์ รวมแล้ว 13 รายการ มากกว่าเหยาหมิงและหลิวเสียงที่มีสถิติที่ 12 รายการ
ถือว่าอิทธิพลของหลี่น่าในขณะนี้ขึ้นมาเทียบเท่าเคียงบ่าหรือน่าจะมากกว่าเหยาหมิง กลายเป็นพรีเซนเตอร์กีฬาคนดังคนใหม่ของจีน เพราะถ้าเทียบกันแล้วเทนนิสมีความนิยมเป็นสากลมากกว่า ผิดกับการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ที่ทรงอิทธิพลในอเมริกาเหนือเป็นสำคัญ ดังนั้น การประสบความสำเร็จของหลี่น่าย่อมนำมาซึ่งกระแส "เทนนิสฟีเวอร์" ทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ของจีนหันมาสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนฝึกสอนเทนนิสมากขึ้น ซึ่งโค้ชของหลี่น่า คาร์ลอส โรดริเกซ เคยให้สัมภาษณ์ว่า จีนมีหลี่น่าแค่คนเดียวไม่พอ หากต้องการรักษาระดับกีฬาเทนนิสของประเทศไว้ให้ได้ในระยะยาว ต้องทำให้มีคนนิยมชมชอบในกีฬานี้มากขึ้น และค้นหาคนที่มีความสามารถพอจะนำมาขัดเกลาได้จากในนั้น
ความสำเร็จของหลี่น่า นักเทนนิสหญิงที่จะมีอายุ 31 ปีในเดือนหน้านี้แล้ว นอกจากดึงดูดเยาวชนจีนที่มีแววหรือใจรักด้านนี้ให้เอาเป็นเยี่ยงเพื่อความสำเร็จในอนาคตมากขึ้น ยังเป็นกำลังใจสำคัญให้กับนักกีฬาอาชีพเพื่อนร่วมทีมที่มีอายุไม่น้อยแล้วอีกหลายคน ที่ตกอยู่ในสถานการณ์นับถอยหลังรอวันถูกปลดออกจากทีมได้ฮึดสู้อีกครั้ง เพราะหลี่น่าได้แสดงให้เห็นว่า อายุไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ตอนที่เธอคว้าตำแหน่งแชมป์แกรนด์สแลม "เฟรนช์โอเพ่น" ก็อายุปาเข้าไป 29 ปีแล้วนั่นเอง
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府