สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันประกาศยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขของญี่ปุ่น ถึงปัจจุบัน สงครามรุกรานที่ญี่ปุ่นก่อขึ้นนั้นได้สิ้นสุดลงไปเป็นเวลา 68 ปีแล้ว แต่กำลังฝ่ายขวาของญี่ปุ่นไม่ยอมรับและตกแต่งประวัติศาสตร์การรุกรานดังกล่าวมาโดยตลอด นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า หากกำลังฝ่ายขวาทำเช่นนี้ไปตลอด มีแต่จะนำญี่ปุ่นไปสู่ทิศทางที่ผิด ประชาคมโลกก็ต้องระมัดระวังการกระทำของญี่ปุ่นอย่างสูง
หลังจากนายชินโซ อาเบะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว กำลังฝ่ายขวาของญี่ปุ่นดูมีกำลังวังชาขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ กำลังฝ่ายขวาญี่ปุ่นปฏิเสธประวัติศาตร์การก่อสงครามรุกรานอย่างเปิดเผย ต่อจากนั้น ยังระบุว่า มาตรการ "หญิงบำเรอ" เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาวินัยกองทัพในช่วงสงคราม ขณะเดียวกัน นายชินโซ อาเบะยังอนุมัติให้สมาชิกคณะรัฐมนตรีคารวะศาลเจ้ายาซุคุนิ
สื่อมวลชนญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 68 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญสันติภาพมาโดยตลอด ซึ่งนำสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ญี่ปุ่นอย่างไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน หากรัฐบาลชินโซ อาเบะอนุมัติให้กองกำลังป้องกันตนเองมีอำนาจก่อการโจมตี ก็แสดงว่า ญี่ปุ่นจะละทิ้งนโยบาย "ป้องกันตนเอง" ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามโลกสิ้นสุดลง และกลายเป็นประเทศที่สามารถก่อสงครามขึ้นอย่างสหรัฐฯ
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานวิจัยรัฐสภาสหรัฐฯเตือนว่า หากนายชินโซ อาเบะไปคารวะศาลเจ้ายาซุคุนิในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ก็จะทำให้สถานการณ์เอเชียตะวันออกทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็ชี้ให้เห็นว่า หากญี่ปุ่นไม่ยอมมองประวัติศาสตร์อย่างถูกต้อง ก็ยากที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ในอนาคต นางหว้า ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ระบุว่า หากญี่ปุ่นไม่ยอมรับผลในสงครามโลกครั้งที่ 2 และมุ่งหมายจะท้าทายกฎระเบียบสากลหลังสงคราม ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศใกล้เคียงในเอเชียก็จะไม่มีอนาคตสดใส