เมืองจือซิงมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น เป็นหนึ่งใน 13 เขตทดลองการพัฒนาแบบยั่งยืนของประเทศ มีธรรมชาติทิวทัศน์ที่งดงาม ทั้งภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ ถ้ำ เกาะแก่ง วัดเก่าแก่เลื่องชื่อ น้ำพุร้อน และโบราณสถานหลายแห่ง
หนึ่งในนั้นคือ ถ้ำหินงอกหินย้อย dou xi long yan การเดินทางไปที่นั่น ต้องนั่งเรือโดยสารขนาดใหญ่ออกจากท่าเรือ แล่นไปในทะเลสาบตงเจียงประมาณ 45 นาที ระหว่างทางสามารถชื่นชมทิวทัศน์ความงดงามของภูเขาและสายน้ำที่เขียวดั่งมรกต ตัดกับสีของท้องฟ้าที่สดใส และสูดอากาศที่สดชื่น สะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งหาได้ยากจากในเมืองใหญ่
ทิวทัศน์จากบนเรือที่แล่นในทะเลสาบตงเจียง
ถ้ำ dou xi long yan มีขนาดกว้างใหญ่มาก มีอายุเก่าแก่หลายพันปี ภายในมีหินงอกหินย้อยรูปลักษณะต่างๆทั้งที่แปลกตา สวยงาม น่าอัศจรรย์ ระยะทางเดินภายในยาวกว่า หนึ่งกิโลเมตร ลดเลี้ยวคดเคี้ยวซอกซอนไปตามร่องหินต่างๆ ทั้งสูงลาดชันและลึกลงไปในพื้นดิน
หินงอกหินย้อยภายในถ้ำ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการปรับปรุงเส้นทางเดินภายในให้สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว โดยทำเป็นขั้นบันได และมีราวจับในพื้นที่ลาดชันเพื่อป้องกันการลื่นล้ม และยังมีการจัดแสงสีภายในถ้าในบริเวณต่างๆ ทำให้เกิดความแปลกตาและสร้างบรรยากาศให้ตื่นตาตื่นใจ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้ผู้มาเยือน สร้างจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบ
แต่ละมุม หินงอก หินย้อย จะมีรูปร่างไม่เหมือนกัน มีทั้งกลุ่มที่จัดไว้เหมือนอาณาจักรใต้ทะเล
กลุ่มของดอกไม้บานงดงามหลากสีสัน และกลุ่มก้อนที่มีรูปร่างเหมือนม่านขนาดใหญ่ในโรงละคร และอีกหลากหลายมุม ที่ดูเหมือนกำลังเหยียบย่างเข้าไปสู่ดินแดนแห่งสวรรค์วิมาน
เนื่องจากถ้ำมีอายุเก่าแก่หลายพันปี ดังนั้น ขนาดของหินงอกหินย้อยจึงมีความใหญ่โตตามอายุที่ยาวนานด้วย บางจุดนักท่องเที่ยวอาจต้องแหงนคอตั้งบ่า เพื่อมองให้ถึงปลายยอด แต่ก็แทบจะมองไม่เห็น
ในระหว่างที่เราเดินอยู่ภายในถ้ำ เนื่องจากมีเพดานถ้ำสูงมากและมีหลายจุดที่อากาศถ่ายเทได้ ดังนั้นจึงสามารถรับรู้ถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นและชื้นอยู่ตลอดเวลา หลายๆจุดก็ยังมีน้ำหยดเป็นร่องรอยกัดเซาะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ทำให้เกิดหินงอกหินย้อยด้วย
สถานที่อีกแห่งที่มีความงดงามของธรรมชาติเป็นที่อัศจรรย์ ในเมืองจือชิง คือ บริเวณ ทะเลสาบน้อยตงเจียง เป็นลำน้ำที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบตงเจียง ที่นี่มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นบริเวณที่มักจะมีช่างภาพมืออาชีพและสมัครเล่นมากมาย จอดรถแวะข้างทางแล้วเดินลงไปยังจุดชมวิวที่จัดทำเป็นสะพานเชื่อมทางเดินเพื่อถ่ายภาพ และรื่นรมย์กับทิวทัศน์ฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีทิวเขาเขียวขจี สะท้อนเงาภาพในลำน้ำที่เรียบ ใสดั่งกระจก
ความมหัศจรรย์จะปรากฎให้เห็น ผ่านม่านสายหมอก ซึ่งแม้จะไม่ใช่ช่วงอากาศหนาว แต่ก็จะมีหมอกเป็นม่านควันสีขาวแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามแปลกตา เหมือนภาพเขียนจากลายพู่กันจากจิตรกรฝีมือเอกชั้นเลิศ ที่รังสรรค์ขึ้น จนมีคำเรียกขานกันว่าเป็นทิวทัศน์ "วู่ม่านเสี่ยวตงเจียง" หรือ "ม่านหมอกปกคลุมทะเลสาบน้อยตงเจียง" โดยเฉพาะเมื่อมีเรือพายลำเล็กๆ ซึ่งให้บริการคนที่สนใจอยากเข้าไปสัมผัสม่านหมอกอย่างใกล้ชิดมาอยู่ในภาพด้วย ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่เห็นงดงามเกินบรรยาย
มีคำกล่าวกันว่า ภาพที่ชนะเลิศการประกวดระดับประเทศ และในการแข่งขันนานาชาติหลายต่อหลายครั้ง ล้วนแล้วแต่มีฉากหลังหรือใช้สถานที่จากเมืองจือชิงทั้งสิ้น จนกระทั่งพูดแซวกันว่า ถึงขั้นที่เรียกว่าช่างภาพจะมีฝีมือหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แค่เพียงเดินทางมาถ่ายวิวทิวทัศน์ที่นี่ ก็มีโอกาสที่จะชนะการประกวดแข่งขันและคว้ารางวัลกลับบ้านได้อย่างแน่นอน และบ้างก็แซวกันว่า ต่อไป ในการประกวดถ่ายภาพ อาจต้องสร้างกติการที่จะไม่รับภาพถ่ายจากเมืองจือชิง เพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้เป็นแต้มต่อและได้เปรียบภาพที่ถ่ายจากสถานที่อื่นๆ ก็เป็นได้
คำเปรียบเปรยนี้ จะเป็นคำกล่าวที่เกินจริงหรือไม่ ... กำลังรอการพิสูจน์จากคุณอยู่
อยากรู้แน่ต้องลองมาเยือน
โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง
