หากมีคนสงสัยว่าหูท่งกรุงปักกิ่งมีความยาวและความกว้างเท่ากันหรือไม่ ความจริงในสมัยราชวงศ์หยวนมีกำหนดในการสร้างหูท่งอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น หูท่งแต่ละสายมีความกว้างประมาณ 9 เมตร แต่เนื่องจากการพัฒนาของเมือง กำหนดเหล่านี้ค่อย ๆ เสื่อมลง หูท่งบางสายยาวขึ้น บางสายสั้นลง บางสายกว้างขึ้น บางสายแคบลง

หูท่งที่ยาวที่สุดคือ " ตงซีเจียวหมินเซี่ยง " ในปลายสมัยราชวงศ์ชิง "ตงซีเจียวหมินเซี่ยง" เคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติประจำประเทศจีน พูดได้ว่า "ตงซีเจียวหมินเซี่ยง" เป็นพยานของยุคจีนใกล้ที่อัปยศอดสูและการกดขี่ของผู้รุกรานต่างชาติ หูทุ่งสายนี้มีความยาวถึง 3 กิโลเมตร ขนานกับถนน "ฉางอัน"

ส่วนหูท่งที่สั้นที่สุด น่าจะเป็น "อี้ฉื่อต้าเจีย" ตั้งอยู่ทางตะวันออกของถนน "หลิวหลีฉ่างตงเจีย" ในสมัยก่อน ทางเหนือของหูท่งสายนี้ เคยเป็นร้านแกะตัวหนังสือ เปิด 3 ประตู ทางใต้ของหูท่งสายนี้เป็นร้านค้า 3 แห่ง ทางตะวันตกคือร้านขายเหล้า ตรงกลางคือร้านตีเหล็ก ทางตะวันออกคือร้านตัดผม แต่ตอนนี้ กลายเป็นบ้านเรือนของสามัญชนไปหมดแล้ว

หูท่งกรุงปักกิ่งที่กว้างที่สุด ตามข้อมูลของหนังสือเรื่อง "หูท่งของกรุงปักกิ่ง" บอกว่า หูท่งที่กว้างที่สุดคือ "หลิงจิ้งหูทุ่ง" มีความยาวถึง 32 เมตร แต่ผมสันนิษฐานว่า นี่เป็นข้อมูลเก่า เพราะเมื่อหลายปีมานี้การดัดแปลงกรุงปักกิ่งทำกันเป็นการใหญ่ มีหูทุ่งส่วนหนึ่งกว้างกว่าเดิมไม่น้อย เมื่อค้นคว้าข้อมูลใหม่และไปสำรวจศึกษาเอง ในที่สุดพบว่าปัจจุบัน หูท่งกรุงปักกิ่งที่กว้างที่สุดน่าจะเป็น "ผี่ฉายหู่ทุ่ง" ซึ่งกว้างถึง 40 เมตรเศษ

ส่วนหูทุ่งที่แคบที่สุด ก็มีกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน เล่มหนึ่งบอกว่า "เกาเสี่ยวหูทุ่ง" แคบที่สุด แค่ 65 เซนติเมตร อีกเล่มหนึ่งบอกว่า "เสี่ยวหล่าปาหูทุ่ง" แคบที่สุด แค่ 58 เซนติเมตร ยังมีเล่มหนึ่งบอกว่า "เฉียนซื่อหูทุ่ง" แคบที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่า หูทุ่งใดแคบที่สุด ผมได้ไปตรวจสอบวัดขนาดที่หูท่ง 3 สายนี้ ในที่สุดแน่ใจได้ว่าหูท่งกรุงปักกิ่งที่แคบที่สุด เป็น"เฉียนซื่อหูทุ่ง" สถานที่ที่แคบที่สุดเพียง 40 เซนติเมตร พอจะให้เด็กหญิงคนหนึ่งเดินผ่านเท่านั้น ผมเคยสัมภาษณ์ชาวปักกิ่งรุ่นเก่าที่ใช้ชีวิตอยู่แถวนั้น ได้คำตอบว่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง หูท่งสายนี้เป็นตลาดแลกเงิน จึงสร้างให้แคบเพื่อว่าหากมีโจรเข้ามาขโมยก็ยากที่จะวิ่งออกได้และทำให้จับกุมได้ง่าย

เรื่องน่ารู้ของหูท่งยังมีมากมาย อย่างเช่น การตั้งชื่อและการเปลี่ยนชื่อที่มีหลักเกณฑ์ต่าง ๆ น่าสนใจมาแต่โบราณ และชื่อเหล่านั้นส่วนหนึ่งยังคงความสำคัญมาจนปัจจุบัน

(Yim/Cui)