วันที่ 1 ตุลาคมปี 2013 กฎหมายการท่องเที่ยวของจีนเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ กฎหมายฉบับนี้กำหนดว่า ห้ามบริษัทท่องเที่ยวกำหนดสถานที่ช้อปปิ้งให้ลูกค้า และเพิ่มรายการท่องเที่ยวนอกเหนือจากกำหนดการเดิมเพื่อหากำำไร ขณะนี้ บริษัทการท่องเที่ยวหลายแห่งในปักกิ่งได้พากันยกเลิกรายการช็อปปิ้งในกำหนดการท่องเที่ยว และช่วงวันหยุดวันชาติที่เพิ่งผ่านไป เป็นช่วงทดสอบผลการปฏิบัติตามกฎหมายการท่องเที่ยวว่าได้ผลอย่างไร
ก่อนวันชาติปีนี้จะมาถึง บริษัทท่องเที่ยวต่างๆ ก็พากันขึ้นราคาของการท่องเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์เกือบทุกเส้นทาง เฉลี่ยแล้วปรับขึ้นจาก 20% ถึง 100% ทีเดียว
ผู้บริหารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเผยว่า ช่วงวันหยุดวันชาติปีนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่กว่า 4,000 คนไปตรวจสอบผลการบังคับใช้กฎหมายการท่องเที่ยว โดยเฉพาะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในวงการท่องเที่ยว เช่น ไกด์ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพหรือไกด์เถื่อน ค่าทัวร์เป็นศูนย์ การบังคับให้ลูกทัวร์ซื้อของตามร้านที่พาไป เพิ่มรายการท่องเที่ยวนอกเหนือจากกำหนดการเดิมเพื่อเก็บค่าคอมมิชชั่น หรือการที่หัวหน้าทัวร์และไกด์ไม่บอกให้ลูกทัวร์ทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ที่ควรใส่ใจระหว่างการท่องเที่ยว เป็นต้น ภายหลังวันหยุดช่วงวันชาติสิ้นสุดลงแล้ว จะนำพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายมาเปิดเผยต่อสังคม
ในการปรับขึ้นราคาทัวร์ครั้งนี้ การท่องเที่ยวประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวันและฮ่องกงขึ้นราคาค่อนข้างมาก เฉลี่ยแล้ว 20-30% มากที่สุดถึง 100% ยกตัวอย่างเช่น ราคาแพคเกจทัวร์เที่ยวไต้หวัน 8 วัน ปรับขึ้นจาก 4,000 หยวนในเดือนกันยายนเป็น 7,000 กว่าหยวน พนักงานของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งบอกว่า ทัวร์ในเดือนกันยายนรับเต็มตั้งนานแล้ว ส่วนทัวร์หลังจากขึ้นราคาแล้วในเดือนตุลาคมรับมาเพียง 20 กว่าคนเท่านั้น แต่พนักงานคนนี้บอกว่า การปรับขึ้นราคาจริงๆ แล้วเป็นเรื่องดีสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะราคานี้ได้เหมาหมดทุกอย่าง เมื่อออกนอกประเทศแล้วไม่ต้องจ่ายเพิ่มแม้แต่หยวนเดียว และไม่ถูกบังคับซื้อของเหมือนแต่ก่อน สถานที่เที่ยวก็มากกว่าเดิมเสียอีก
ส่วนราคาทัวร์เที่ยวเกาหลีใต้และประเทศไทยไม่ได้ขึ้นมากอย่างที่คิด เพียงแต่รวมค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ และค่าทิปเข้าในราคาค่าทัวร์ ซึ่งแต่ก่อนไกด์จะเก็บจากลูกทัวร์หลังจากไปถึงต่างประเทศแล้ว ยกตัวอย่างเช่น แพคเกจทัวร์เที่ยว 3 ประเทศยุโรป 10 วัน แต่ก่อนเข้าชมพระราชวังลูฟวร์และพระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศสต้องจ่ายต่างหาก ต่อไปก็จะรวมอยู่ในค่าทัวร์
เกี่ยวกับเรื่องพาลูกทัวร์เข้าร้านช้อปปิ้งนั้น หลังจากกฎหมายการท่องเที่ยวเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว บริษัทท่องเที่ยวต่างๆ พากันยกเลิกรายการช้อปปิ้งไปเลย เนื่องจากกลัวฝ่าฝืนกฎหมาย แต่การทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งบริษัทและไกด์ค่อนข้างมาก เนื่องจากเดิมช้อปปิ้งถูกจัดในกำหนดการท่องเที่ยว บางทีเข้าร้านขายของครั้งหนึ่งก็จะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง เมื่อตัดส่วนนี้ออกไป ย่อมต้องเพิ่มรายการเที่ยวเพื่อชดเชย นอกจากนี้ เดิมรายได้ส่วนใหญ่ของไกด์มาจากค่าคอมมิชชั่น การห้ามพาลูกทัวร์ซื้อของเท่ากับตัดรายได้ส่วนนี้ของไกด์ไป
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัททัวร์พากันปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยว เช่น เพิ่มเวลาอิสระให้กับนักท่องเที่ยว หรือเพิ่มเวลาของการชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งให้นานขึ้น ลูกทัวร์จะได้มีเวลาไปซื้อของเอง หรือปล่อยให้ลูกทัวร์ไปช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น
นอกจากนี้ เพื่อลดต้นทุนและพยายามรักษาราคาให้มั่นคง บริษัทท่องเ้ที่ยวหลายแห่งใช้วิธีร่วมกันเหมาเครื่องบิน จะได้ประหยัดต้นทุนส่วนค่าเดินทาง