กฎหมายการท่องเที่ยวยังกำหนดว่า ห้ามไกด์และหัวหน้าทัวร์พาลูกทัวร์ไปช้อปปิ้งหรือเก็บเงินเพิ่มรายการท่องเที่ยว เพื่อหากำไร ซึ่งเท่ากับตัดแหล่งรายได้ที่สำคัญของไกด์ไป ยกตัวอย่างเช่น ไกด์หรือหัวหน้าทัวร์พาคณะทัวร์ไปเที่ยวยุโรปจะได้ค่าคอมมิชชั่นมากพอสมควร เดือนหนึ่งมากกว่า 20,000 หยวน แต่ถ้าตัดส่วนนี้ออกไป ก็ได้แต่รับเงินเดือนตายตัวจากบริษัท ซึ่งเดือนละประมาณ 1500 – 2000 หยวน และออกทัวร์ครั้งหนึ่งได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 500 หยวน ผู้จัดการบริษัททัวร์แห่งหนึ่งบอกว่า ความจริงรายได้นี้ถือว่าดีพอสมควรแล้ว เพราะช่วงไฮซีซั่นไกด์ออกทัวร์เดือนละหลายทัวร์ และทางบริษัทยังได้ซื้อประกันต่างๆ ให้หมด ไกด์ที่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพจะไม่ลาออกง่ายๆ และบริษัททัวร์ที่มีขนาดใหญ่ก็จะตั้งราคาตามต้นทุน ถึงแม้จะแพงขึ้น แต่เป็นการกลับคืนสู่ราคาที่เป็นปกติ

หลังจากประกาศใช้กฎหมายการท่องเที่ยวแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยพากันเข้าใจว่า ต่อไปการท่องเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะไม่มีการช้อปปิ้งอีกแล้ว เกี่ยวกับประเด็นนี้ นักกฎหมายผู้ร่วมร่างกฎหมายการท่องเที่ยวให้คำอธิบายว่า การช้อปปิ้งไม่มีปัญหาและไม่ผิดกฎหมาย การบัญญัติกฎหมายไม่ใช่เพื่อห้ามการซื้อของระหว่างการท่องเที่ยว วัตถุประสงค์คือเพื่อยับยั้งพฤติกรรมมิชอบในการพาลูกทัวร์ช้อปปิ้ง เพื่อหากำไรโดยมิชอบ หากไกด์กับลูกทัวร์ตกลงกันล่วงหน้า ก็สามารถพาไปช้้อปปิงได้ แต่ห้ามทางบริษัทท่องเที่ยวกำหนดสถานที่ช้อปปิ้ง

สำหรับเรื่องทิป แบ่งเป็น 2 กรณี หนึ่งคือค่าบริการที่ลูกทัวร์จ่ายให้กับไกด์ ซึ่งรวมอยู่ในค่าทัวร์ อีกกรณีหนึ่งคือ ค่าตอบแทนต่างหากที่ลูกทัวร์จ่ายให้กับไกด์ด้วยความสมัครใจ เนื่องจากพอใจกับการบริการ

กฎหมายการท่องเที่ยวกำหนดว่าห้ามบริษัททัวร์และไกด์เรียกร้องค่าตอบแทนจากลูกทัวร์ แต่บางประเทศมีธรรมเนียมจ่ายค่าทิปให้กับคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น จึงเสนอให้ทางบริษัทเก็บล่วงหน้า แต่ห้ามไกด์และหัวหน้าทัวร์เก็บจากลูกทัวร์โดยตรง

นอกจากนี้ บางคนยังคาดการณ์ว่า ต่อไปการท่องเที่ยวแบบอิสระจะกลายเป็นกระแสนิยม การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะค่อยๆ หายไป แต่บุคคลในวงการเห็นว่า แพคเก็จทัวร์มีความเหนือกว่าหลายอย่าง เช่น นักท่องเที่ยวไม่ต้องลำบากในเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จัดเส้นทางเที่ยว ซื้อบัตรเข้าชม รวมทั้งอาหารการกินด้วย การบริการเบ็ดเสร็จแบบนี้ มิเพียงแต่จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางอย่างสบายๆ ได้แล้ว ราคาก็ย่อมถูกกว่าการท่องเที่ยวด้วยตนเอง นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแบบเจาะลึกนับวันได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากพาชมสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว บริษัททัวร์ยังสามารถพาไปชมมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ กระทั่งจัดคอร์สเรียนพิเศษด้วย ดังนั้น การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะไม่หายไป กลับจะมีรูปแบบหลากหลายมากขึ้นและมีคุณภาพดียิ่งขึ้น

สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่สุภาพ ไม่เคารพธรรมเนียมหรือประเพณีท้องถิ่น กฎหมายการท่องเที่ยวได้กำหนดมาตราการและมาตรฐานปรับและลงโทษ จากการปรับเงิน 200 – 500 หยวน ไปจนถึงการลงโทษด้วยการควบคุมตัว หากพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ ควรได้รับการลงโทษตามกฎหมายของต่างประเทศ