หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางเยือนประเทศกัมพูชาและลาวระหว่างวันที่ 16-17 พฤศจิกายนนี้ ทำให้เป้าหมายเยือนครบ 10 ประเทศอาเซียนกลายเป็นจริงขึ้นได้ภายใน 11 เดือนนับตั้งแต่นายชินโซ อาเบะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก สื่อมวลชนญี่ปุ่นระบุว่า ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้ และยังวิเคราะห์ว่า ญี่ปุ่นต้องการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยอาศัยการกระชับความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศนี้กำลังพัฒนาเจริญขึ้นอย่างคึกคัก
รายงานข่าวของสื่อมวลชนญี่ปุ่นแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพบปะเจรจากับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กรุงพนมเปญ ทั้งสองประเทศออกแถลงการณ์ร่วมว่า จะกระชับความร่วมมือ เพื่อให้มีการออกหลักการปฏิบัติตามระบบกฎหมายด้านความมั่นคงทางทะเล นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นเพิ่มการลงทุนในกัมพูชา และเห็นด้วยที่จะเปิดเส้นทางการบินที่เชื่อมทั้งสองประเทศโดยตรง
ระหว่างเดินทางเยือนประเทศลาว นายชินโซ อาเบะเน้นถึงนโยบายสันติภาพเชิงรุกของญี่ปุ่น และกล่าวว่า จะเพิ่มการแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานด้านการต่างประเทศ และการป้องกันประเทศของลาวให้มากขึ้น เขายังสัญญาว่า จะปล่อยเงินกู้ให้แก่ลาว เพื่อใช้ในโครงการขยายสนามบินนานาชาติของลาว และยังจะกระชับความร่วมมือด้านการแพทย์ การรักษาพยาบาลกับลาว นอกจากนี้ องค์การส่งเสริมการลงทุนของญี่ปุ่นมีแผนจะจัดตั้งสาขาในประเทศลาว เพื่อสนับสนุนบริษัทภาคเอกชนของญี่ปุ่นไปลงทุนในลาว รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนที่จะเปิดเส้นทางการบินที่เชื่อมญี่ปุ่นและลาวโดยตรงด้วย
นักวิเคราะห์เห็นว่า การส่งเสริมธุรกิจบริการด้านการแพทย์ในต่างประเทศนั้นเป็นเนื้อหาสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลชินโซ อาเบะ ด้วยเหตุนี้ ระหว่างเยือนกัมพูชาและลาว นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพยายามโปรโมทธุรกิจบริการด้านการแพทย์และการบำรุงรักษาสุขภาพของญี่ปุ่น เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกเทคโนโลยีการแพทย์ การรักษาพยาบาล และโครงการอบรมบุคลากรด้านการแพทย์ การรักษาพยาบาลไปยังประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านสำนักข่าวเกียวโด (Kyodo News)ระบุว่า การเยือนกัมพูชาและลาวของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์จะกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมาก เพื่อผลักดันการส่งออกเทคโนโลยีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนจะเชิญผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนเข้าร่วมการประชุมวิสามัญที่จะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวระหว่าง 13-15 ธันวาคมนี้ด้วย
นายเฉิน กัง นักวิจัยของสถาบันวิจัยภูมิภาคเอเชียตะวันออก ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาอัตราเกิดของประชากรลดน้อยลง และปัญหาสังคมผู้สูงอายุ ประชากรวัยแรงงานจึงมีจำนวนลดน้อยลง และทำให้ความต้องการด้านการอุปโภคบริโภคลดน้อยลงตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ ญี่ปุ่นมีความต้องการอย่างเร่งด่วนที่จะขยายการตลาดในต่างประเทศ ด้านกลุ่มประเทศในเอชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ได้ห่างไกลกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ บริษัทญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนในประเทศในเอชียตะวันออกเฉียงใต้มาช้านานแล้ว นายชินโซ อาเบะจึงพยายามสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นบุกตลาดของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
(YIM/cai)