จริงๆ โจวเป็นเด็กที่ใจดีและรักน้องสาวมากๆ เวลาเจ้าหน้าที่ให้อะไร เขาก็จะถามว่า น้องผมมีไหม ครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่รายการอยากให้เด็กทุกคนรู้จักการแบ่งปัน จึงให้เด็กๆ เข้าห้องกันทีละ 2 คน และให้คนหนึ่งอาหารเช้า แต่อีกคนหนึ่งไม่มี และดูว่าเด็กที่มีอาหารกินจะแบ่งให้อีกคนหนึ่งหรือไม่ โจวต้องเข้าไปกับพี่ตัวตัว แต่อาหารเช้าของสองคนนี้ไม่อร่อย จึงถามเจ้าหน้าที่ว่า ทำด้วยอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่าทำด้วยไข่ไก่ โจวจึงรีบถามอย่างตื่นเต้นว่า น้องผมก็กินอันนี้หรือ น้องแพ้ไข่ไก่ กินไม่ได้ พอเจ้าหน้าที่บอกว่าเกรสกินอย่างอื่น โจวจึงวางใจ นอกจากนี้ โจวยังดูแลน้องอย่างรอบด้าน ทั้งปลอบใจ ช่วยถือของหนัก ตลอดจนช่วยใส่รองเท้า
เมื่อ
อยู่ที่นิวซีแลนด์ เด็กๆ ทุกคนต้องไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่เกรสไม่ยอมจากพ่อ จึงร้องขออยู่กับพ่อ โจวจึงจูงมือน้อง เกรสเดินไปพลาง กล่าวคิดถึงพ่อไปพลาง ส่วนโจวก็เหมือนพี่ใหญ่บอกเชิงดุว่า หยุดพูดได้แล้ว แต่ไม่นานก็พาน้องไปซื้อลูกกวาด เพื่อให้น้องดีใจ และกล่าวว่า เห็นไหม พี่พูดบอกแล้ว การซื้อของสนุกใช่ไหม เธออยากได้ลูกกวาดแบบไหน ส่วนเกรส ในฐานะเด็กที่ชอบกินมาก เห็นลูกกวาดแล้วก็ตื่นเต้น และลืมพ่อไป
ส่วนเฉาเก๋อก็เป็นพ่อที่อ่อนโยนและละเอียดอ่อนมาก เขาเกือบไม่เคยโกรธลูก เวลาที่พี่น้องทะเลาะกัน เขาก็ไม่ว่าใครผิดใครถูก แต่บอกว่า พี่สาวใหญ่ต้องดูแลพี่ชาย ส่วนพี่ชายก็ต้องดูแลพี่สาวใหญ่ เพราะเรารักกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ในขณะเดียวกัน ก็ให้พี่น้องสองคนจำประโยคว่า "อย่าร้องไห้ อย่าเอาแต่ใจ รักพ่อแม่ พยายามเป็นแบบอย่างที่ดี" เวลาลูกไม่เชื่อฟังเขา เขาก็ให้ลูกท่องประโยคนี้ออกมา เมื่อเห็นลูกทำผิด หรือมีข้อบกพร่องในนิสัย เขาก็ไม่พูดตรง แต่เล่าเรื่องให้ฟัง เช่นเอาหอยทากสองตัวมาเปรียบพี่น้องสองคนนี้ ให้ลูกชายเข้มแข็งขึ้น ดูแลน้อง และให้น้องสาวถือพี่ชายเป็นแบบอย่าง ต้องพูดว่าเป็นพ่อที่มีวิธีสอนดีมาก และเฉาเก๋อมักกล่าวว่า ลูกไม่ใช่คนที่ต้องถูกสั่งสอน แต่เป็นคนที่สั่งสอนพ่อแม่ ให้พ่อแม่เป็นคนที่ดีขึ้น ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจึงแสดงความคิดเห็นว่า นอกจากเสียงดีร้องเพลงเพราะแล้ว นี่เป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ชอบผู้ชายคนนี้
ปัจจุบัน รายการพ่อจ๋า เราจะไปไหน ซีซั่นสอง ก็จบแล้ว แต่เหมือนกับซีซั่นแรก ผู้ชมและผู้ใช้อินเตอร์เน็ตยังไม่ยอมลืมพ่อลูก 5 คู่ และสิ่งที่ต่างจากซีซั่นแรกคือ จุดสนใจและประเด็นฮิตเปลี่ยนจากความน่ารักของเด็กๆ มาเป็นวิธีสั่งสอนลูก ไม่ต้องเปรียบเทียบว่าวิธีไหนดีกว่า เด็กคนไหนดีกว่า เพราะพ่อทุกคนมีวิธีที่ต่างกัน เด็กๆ ก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราอิจฉามากคือ เมื่อเด็ก 6 คนนี้เติบโตขึ้น รายการนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำที่ล้ำค่ามากของพวกเขา