เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พม่าได้จัดการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกด้วยความสำเร็จ กรุงเนบิดอร์ เมืองหลวงใหม่ของพม่าได้รองรับผู้นำจาก 18 ประเทศเป็นครั้งแรก
ไม่ว่างานกีฬาซีเกมส์เมื่อปี 2013 หรือการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เพิ่งสิ้นสุดลง พม่าได้แสดงให้โลกเห็นถึงบรรยากาศสังคมที่เจริญ แม้ว่าภายในประเทศพม่ายังมีปัญหาดำรงอยู่ไม่น้อย แต่ประชาชนพม่าใฝ่หาประชาธิปไตยและมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนา ทั้งนี้ทำให้การเปลี่ยนรูปแบบสังคมดำเนินไปค่อนข้างราบรื่น ทำให้โลกเชื่อว่า ประเทศนี้จะขจัดความยากลำบากและกลายเป็นดาวดวงใหม่ของเอเชียอย่างแน่นอน
ในที่ประชุมครั้งนี้ พม่าได้แสดงให้เห็นถึงขี้ดความสามารถการต่างประเทศแบบพหุภาคี การที่ผู้นำ 18 ประเทศเข้าร่วม ก็เป็นการยอมรับการปฏิรูปและเปลี่ยนรูปแบบสังคมของพม่า โดยเฉพาะนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและนายโอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เยือนพม่าพร้อมกัน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์การต่างประเทศพหุภาคีของรัฐบาลเต็งเส่งได้ประสบผลสำเร็จแล้ว ปีหลังๆ นี้ การขัดแย้งเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้เป็นเงามืดของที่ประชุมอาเซียนทุกครั้ง แต่การประชุมครั้งนี้ไม่ได้เกิดการขัดแย้งมากเกินไปในปัญหานี้ ได้กำหนดหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทะเลจีนใต้อย่างสันติใน "แถลงการณ์เนบิดอร์"ที่ที่ประชุมได้ผ่าน จึงทำให้ประเด็นหลักของการประชุมกลายเป็นการวางแผนการพัฒนาของอาเซียนในอนาคต
ปี 2015 พม่าจะจัดการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่มีความสำคัญในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบสังคมของพม่าเท่านั้น หากยังเป็นเหตุการณ์สำคัญในการเปลี่ยนโครสร้างการเมืองของเอเชีย-แปซิฟิกด้วย ปัจจุบัน การแข่งขันระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพม่านับวันชัดเจนยิ่งขึ้น พม่าได้ใช้การประชุมครั้งนี้ สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเยือนจีนหลายครั้งของพลเอกเต็งเส่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือการเยือนพม่า 2 ครั้งของนายโอบามา หรือการประชุมระดับสูงระหว่างผู้นำประเทศต่างๆ ในการประชุมครั้งนี้ ล้วนจะสังเหตุเห็นการแข่งขันระหว่างประเทศใหญ่ในพม่า ส่วนรัฐบาลพม่าก็รู้ดีว่า ต้องใช้โอกาสต่างๆ เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์มากที่สุด
Lr/In