"สำหรับคนธรรมดาแล้ว อายุ 40 ปีนั้นถือว่าอยู่ในช่วงวัยกลางคน ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่มีความหนักแน่นมั่นคง ปี 2015 นี้เป็นปีสิริมงคลอย่างยิ่งเพราะการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทยครบรอบ 40 ปี การเผชิญกับบททดสอบทุกรูปแบบที่ผ่านพ้นมาได้แล้ว ยิ่งกระตุ้นให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยสุกงอมสมบูรณ์และพัฒนาลงลึกในทั่วทุกด้าน พร้อมเข้าสู่ช่วงก้าวหน้าอันรวดเร็ว"
นายนิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย กล่าวเช่นนี้ขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทั้งจีนและไทยที่กรุงเทพมหานครในโอกาสใกล้เข้าถึงวันครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์จีน-ไทย นอกจากประเด็นความร่วมมือและการไปมาหาสู่กันที่ใกล้ชิดทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมและบุคลากรระหว่างสองประเทศแล้ว เอกอัครราชทูตจีนยังทอดสายตาไปสู่อนาคตอันสดใสของความสัมพันธ์จีน-ไทย
นายนิ่ง ฟู่ขุยกล่าวว่า เมื่อทบทวนกระบวนการพัฒนา 40 ปีความสัมพันธ์จีน-ไทย สรุปได้ว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมืองทวิภาคีเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ความร่วมมือทางการค้าการลงทุนที่อำนวยประโยชน์แก่กันยกระดับสูงขึ้นทุกที การไปมาหาสู่กันด้านวัฒนธรรมและบุคลากรเจริญคึกคักตลอดเวลา
เขาอธิบายว่า พิจารณาในด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง จีนยืนหยัดนโยบายการทูตที่ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ไม่ว่าสถานการณ์ภายในของไทยเปลี่ยนแปลงอย่างไร นโยบายมุ่งพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศไทยของรัฐบาลจีนไม่เคยสั่นคลอนแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งได้รับการชื่นชมจากทุกวงการในสังคมไทย ช่วงไม่กีปีมานี้ ทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้พบเจรจากับผู้นำของไทยหลายต่อหลายครั้งต่างกาลต่างสถานที่ทั้งทวิภาคและพหุภาคี เฉพาะช่วงระหว่างปี 2013 – 2015 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีน 4 ครั้ง นายกรัฐมนตรีและผู้นำระดับสูงของไทยหลายคนต่างเดินทางไปเยี่ยมเยือนที่จีนเช่นกัน ซึ่งการแลกเปลี่ยนการเยือนและการประสานงานที่มีอยู่บ่อยครั้งมากระหว่างผู้นำระดับสูงของจีนกับไทยนั้น สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสองประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ถ้าพิจารณาในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย จีนกับไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1975 ซึ่งยอดมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศในขณะนั้นเป็นเพียง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น จากนั้น 40 ปีให้หลัง ยอดการค้าจีน-ไทยในปี 2014 เติบโตขึ้นเป็น 72,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะยอดการลงทุนต่อกันของจีนกับไทยก็ทะลุ 6,000 ล้านหยวน
พิจารณาในต้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและบุคลากร ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2015 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเที่ยวชมในเมืองไทยเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน คือ 2.7 ล้านคน เติบโตเกือบเป็น 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนนักเรียนนักศึกษาไทยที่ไปศึกษาต่อในประเทศจีนทะลุ 20,000 คน มากกว่าจำนวนนักเรียนนักศึกษาจากประเทศอาเซียนอื่นๆ ส่วนจีนก็เป็นประเทศที่ส่งนักเรียนนักศึกษาไปไทยมากที่สุดเช่นกัน ปัจจุบัน มีชาวจีนกว่า 20,000 คนกำลังศึกษาอยู่ในเมืองไทย