นายนิ่ง ฟู่ขุยเน้นว่า การยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าจีน-ไทยยังมีศักยภาพสูง ตั้งใจเสนอให้วิสาหกิจทั้งจีนและไทยขยายความร่วมมือใน 5 ด้านดังต่อไปนี้

หนึ่ง.ร่วมมือในระดับปริมณฑลที่เป็นความต้องการของไทย และเป็นความได้เปรียบของจีน เช่น วิศวกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ เป็นต้น ควบคู่ไปกับการเดินหน้าความร่วมมือด้านการรถไฟ จีนกับไทยควรขยายความร่วมมือในการผลิตอุปกรณ์ด้านการรถไฟ สอง.ร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ การผลิตไฟฟ้าด้วยขยะ สถานีกำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำขนาดเล็ก ฯลฯ สาม.ร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตผลการเกษตร ขณะนี้ บริษัทจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก 8 แห่งได้วางแผนหรือเริ่มสร้างโรงงานในประเทศไทยแล้ว คาดว่า ก่อนสิ้นปี 2017 ยอดปริมาณการผลิตต่อปีของโรงงานแปรรูปยางพาราของบริษัทจีนในไทยจะอยู่ที่ระดับ 1 ล้านตัน คิดเป็น 1 ใน 4 ของยอดการผลิตยางของไทย ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อการรักษาระดับราคายางธรรมชาติและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของชาวสวนยางในไทย สี่.ผลักดันความร่วมมือในด้านนิวไฮเทคระหว่างวิสาหกิจสองประเทศ เช่น เทคโนโลยีการรับรู้จากระยะไกล ดาวเทียมการสื่อสาร เครือข่ายรุ่น 4G ชีววิทยาและการผลิตยา เป็นต้น และห้า.ยกระดับความร่วมมือด้านการเงินระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมให้บริษัททั้งจีนและไทยชำระการค้าด้วยเงินหยวนของจีนหรือเงินบาทให้มากขึ้น เพื่อประหยัดต้นทุนการชำระเงิน และลดความเสี่ยงด้านการเงิน

ปี 2015 นี้เป็นปีที่ต้องเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่นอกจากเพื่อรำลึกการสถาปนาความสัมพันธ์จีน-ไทย ยังถือเป็นปีที่เริ่มการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ "หนี่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ของจีน และเป็นปีที่ประชาคมอาเซียนสร้างแล้วเสร็จด้วย นายนิ่ง ฟู่ขุยเน้นว่า สำหรับตลาดกว้างใหญ่ไพศาลของอาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า 600 ล้านคน ด้วยเหตุที่มีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นพิเศษ ประเทศไทยกลายเป็นจุดเชื่อมอาเซียนของจีนทั้งทางบกและทางทะเลโดยธรรมชาติ ดังนั้น ไทยมีศักยภาพมหาศาลในการผลักดันการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลประจำศตวรรษที่ 21 ปัจจุบัน รัฐบาลไทยกำลังทุ่มเทกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อยกฐานะของตนในการเป็นชุมทางที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคให้สูงกว่าเดิม การที่จีนกับไทยกระชับความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมทั้งด้านการรถไฟให้เชื่อมโยงกันนั้น เป็นการนำร่องการเดินหน้า "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ร่วมกันของสองประเทศ

เอกอัครราชทูตจีนประจำไทยย้ำว่า มีความมั่นใจเต็มที่ต่ออนาคตการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย เขากล่าวว่า จีนกับไทยมีเป้าหมายการพัฒนาคล้ายคลึงกัน ความเชื่อถือทางการเมืองที่หนาแน่น และผลประโยชน์ร่วมกันอย่างรอบด้าน จีนให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทย ไม่ว่าสถานการณ์ผันผวนเพียงใด จุดยืนในความร่วมมือฉันมิตรกับไทยของรัฐบาลจีนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง จีนจะเสริมสร้างความร่วมมือที่มีส่วนเกื้อกูลกันกับไทยในอีกระดับหนึ่ง แสวงหาจุดเติบโตใหม่ของความร่วมมือทวิภาคีที่อำนวยประโยชน์แก่กัน ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองฉันมิตรระหว่างกันเพื่อสร้างความสุขมากขึ้นแก่ประชาชนสองประเทศ จีนกับไทยจะเพิ่มการแลกเปลี่ยนความเห็นและประสานงานกันในภารกิจระหว่างประเทศกับภารกิจในภูมิภาคที่สำคัญ ร่วมผลักดันการสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และประชาคมชะตากรรมเดียวกันของเอเชีย เชิดชูบทบาทความเป็นแบบอย่างที่ดีแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองและฉันมิตร ร่วมยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีระบอบสังคมที่แตกต่างกัน