สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประมุขหรือผู้นำรัฐบาลกว่า 100 ท่านจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ร่วมประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมหารือในแนวทางการแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดประชุม โดยบรรยายสรุปข้อคิดเห็นของจีนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หลายวันมานี้ ประเทศต่างๆ พากันออกมาชื่นชมจีนที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้ใช้มาตรการอย่างแข็งขันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อลดโลกร้อน
แหล่งข่าวรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "ร่วมกันสร้างกลไกความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน มีความเที่ยงธรรมและสมเหตุสมผล เพื่อแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ " ในพิธีเปิดประชุม โดยระบุว่า ยอดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของจีนจะค่อยๆ ลดลง ก่อนปี 2030 นอกจากนี้ ถึงปี 2030 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยจีดีพีของจีนจะปรับลด 60%-65% เมื่อเทียบกับปี 2005 ต่อการนี้ นายแองเจล กูเรีย (Angel Gurría) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี กล่าวชื่นชมว่า สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กล่าวในพิธีเปิดประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมาก การที่จีนตัดสินใจจะค่อยๆ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลังปี 2030 นั้นแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์อันดีทางการเมืองของผู้นำจีน นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะจีนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังได้ตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย นี่เป็นข่าวดีมากๆ
วันที่ 1 ธันวาคมนี้ นางโมนิก บาร์บูท (Monique Barbut) เลขาธิการสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย (UNCCD)ได้ร่วมกิจกรรมในหัวข้อ "จีนใช้มาตรการแก้ไขปัญหาพื้นดินเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และปัญหาอื่นๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ " ซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ กรุงปารีส และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จีนมีบทบาทสำคัญมากในประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงปารีส การตัดสินใจของจีนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นจะส่งผลอันลึกซึ้งยาวไกลต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ขณะเดียวกัน จีนยังเป็นแบบอย่างที่ดีของประเทศ กำลังพัฒนาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
(YIM/cai)