ความคิดที่เกิดจากผลการแข่งขันระหว่างสมองกลหมากล้อมกูเกิลAlphaGoกับมนุษย์อี เซดอล นักหมากล้อมเกาหลีใต้-4
  2016-04-14 09:57:43  cri

หลังเซ็นสัญญาแล้ว บุคคลวงการหมากล้อมส่วนใหญ่เห็นว่า อี เซดอลจะชนะ AlphaGo 5 ต่อ 0 แม้ว่า AlphaGo เคยชนะนักหมากล้อมอาชีพบางคนก็ตาม แต่วิธีการเดินยังมีข้อผิดพลาด จะชนะนักหมากล้อม 9 ดั้งไม่ได้ แต่หลังเกมส์แรก พวกเขาพบว่า อี เซดอลต้องโยนหมากยอมแพ้ ต่อมา อี เซดอล ต้องยอมแพ้ต่อเนื่องเป็น 0 ต่อ 3 ในปัจจุบัน จนมีนักหมากล้อมอาชีพบางคนสลดใจมากและพูดว่า ในสายตาของพวกเขา แม้ว่าการเดินหมากของ AlphaGo ไม่ใช่จุดตัดที่เหมาะที่สุดทุกครั้ง บางครั้งยังทำให้พวกเขารู้สึกงงๆ และคิดว่าผิดพลาดแล้ว แต่ว่าเล่นได้อย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ต้นจนจบและชนะในที่สุด ส่วนอี เซดอลกลับได้ผลกระทบทางจิตใจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของหมากกระดานและไม่มีโอกาสชนะสักครั้ง อาจต้องใช้นักหมากล้อมอาชีพถึง 5 คนจึงจะชนะ AlphaGo ได้

เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดเสียงสะท้อนอย่างมากในวงการต่างๆ นาย เดมิส ฮัสซาบิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท deepmind ผู้พัฒนา AlphaGo ระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ถูกเสริมทักษะด้วยการศึกษาเกมการเล่นในอดีต และย่อยรูปแบบการเล่นออกมา "มันเล่นหมากล้อมกับตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกันนับล้านล้านครั้ง และในแต่ละครั้งก็เก่งขึ้นทุกที มันเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวมันเอง ซึ่งเป็นการได้ก้าวหน้าสำคัญอย่างมากในหมู่ปัญญาประดิษย์ และย่อมจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายต่อมนุษย์

บางคนคาดว่า อีกไม่นาน ปัญญาประดิษย์จะเข้าสู่ชีวิตประจำวันมนุษย์แน่นอน และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่น การค้นหาโดยใช้เสียงพูด การประยุกต์ใช้ด้านการแปลภาษา การค้นหาโดยใช้ภาพหรือรับรู้ภาพ ของเล่นอัฉริยะ ระบบบริการอัจฉริยะ การประยุกต์ใช้จาก bigdata เทคนิคการขับโดยไร้คนขับเป็นต้น ซึ่งปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาในชีวิตประจำวัน ทั้งการเรียน การทำงานของมนุษย์ คาดว่า ในอนาคต มนุษย์อาจเก่งน้อยกว่าสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะก็คงว่าได้

ในขณะที่เราใช้ประโยชน์และความสะดวกที่เกิดจากการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์นั้น เราต้องระมัดระวังข้อเสียที่อาจจะมาพร้อมกัน เช่น เมื่อมนุษย์ต้องพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อวิวัฒนาการของมนุษย์หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดเป็นอันดับแรก นอกจากนั้น บางคนยังระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นภัยคุกคามที่ค่อนข้างแรงสำหรับมวลมนุษย์ชาติ Stephen Hawking นักฟิสิกส์และจักรวาลวิทยาของโลก ก็ออกมาพูดถึงเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษยชาติถึงจุดจบได้ แม้ว่าสถานะของการวิจัยและพัฒนาในขณะนี้ยังไม่ใช่ภัยคุกคามแต่อย่างใด แต่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เต็มรูปแบบที่ทำให้มีศักยภาพเหนือกว่ามนุษย์ทั้งในด้านสติปัญญาและกายภาพนั้นอันตราย เพราะปัญญาประดิษฐ์สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว และด้วยเหตุที่พวกมันไม่ต้องการพักผ่อนเหมือนมนุษย์ก็จะพัฒนาตนเองต่อไปด้วยตนเอง การออกแบบตัวเองใหม่ ด้วยอัตราการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มนุษย์ค่อยๆมีวิวัฒนาการอย่างช้าๆ นั้นไม่อาจเทียบได้ และถูกแซงหน้าไปในที่สุด

เราต้องห่วงภัยคุกคามจากปัญญาประดิษฐ์หรือไม่

หากเรามองย้อนกลับไปที่ภาพยนตร์และนิยายวิทยาศาสตร์ต่างๆ เราจะเห็นว่ามีการพูดถึงปัญญาประดิษฐ์เอาไว้ในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมที่ดีๆ อย่างภาพยนตร์เรื่อง A.I. Artificial Intelligence หรือแนวที่ชี้ให้เห็นภัยคุกคามระดับล้างโลก อย่าง Terminator ก็ตาม และภาพยนตร์ดังกล่าวให้แง่คิดและเตือนใจมนุษย์ก่อน เชื่อมั่นว่า มนุษย์เราจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ก่อนที่จะเกิดสภาพการณ์อย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
社会
v ความคิดที่เกิดจากผลการแข่งขันระหว่างสมองกลหมากล้อมกูเกิลAlphaGoกับมนุษย์อี เซดอล นักหมากล้อมเกาหลีใต้-3 2016-04-14 09:56:07
v ความคิดที่เกิดจากผลการแข่งขันระหว่างสมองกลหมากล้อมกูเกิลAlphaGoกับมนุษย์อี เซดอล นักหมากล้อมเกาหลีใต้ (2) 2016-03-15 16:52:19
v ความคิดที่เกิดจากผลการแข่งขันระหว่างสมองกลหมากล้อมกูเกิลAlphaGoกับมนุษย์อี เซดอล นักหมากล้อมเกาหลีใต้ (1) 2016-03-15 16:48:19
v สถาบันภาษาและวัฒนธรรมจีนปักกิ่ง(ตอนจบ) 2016-01-21 14:17:58
v สถาบันภาษาและวัฒนธรรมจีนปักกิ่ง(ตอนต้น) 2016-01-21 14:14:20
v พิพิธภัณฑ์ท้องฟ้าจำลองกรุงปักกิ่ง หรือหอดูดาวกรุงปักกิ่ง-2 2015-12-22 18:59:14
v พิพิธภัณฑ์ท้องฟ้าจำลองกรุงปักกิ่ง หรือหอดูดาวกรุงปักกิ่ง 2015-12-22 18:55:07
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040